การอ้างอิงแบบ R1C1 เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการอ้างอิงเซลล์ใน Excel ที่ทรงพลังและยืดหยุ่น สามารถใช้ประยุกต์ในการทำรายงาน โดยสามารถดึงข้อมูลจากชีตต่าง ๆ มาแสดงโดยไม่ต้องคลิกไปดูข้อมูลต้นทาง ปกติจะใช้กับฟังก์ชัน INDIRECT() เพื่อช่วยให้การคำนวณแบบไดนามิกเป็นไปได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย หากเป็นการดึงข้อมูลจากชีตในไฟล์อื่นจำเป็นต้องเปิดไฟล์ต้นทางเอาไว้ก่อนเสมอ
☕ ความแตกต่างระหว่าง A1 และ R1C1
- A1: หัวคอลัมน์เป็นตัวอักษร เช่น A, B, C…
- R1C1: หัวคอลัมน์เป็นตัวเลข เช่น 1, 2, 3…
หาก Excel ของคุณแสดงหัวคอลัมน์เป็นตัวเลข (R1C1) และต้องการเปลี่ยนกลับเป็น A1:
ไปที่ File > Options > Formulas แล้ว ปลดเครื่องหมายถูกที่ “R1C1 reference style”
📐 ไวยากรณ์ของ R1C1 ที่ควรรู้
| รูปแบบ | ความหมาย |
|---|---|
RC | อ้างอิงเซลล์ปัจจุบันที่กำลังเขียนสูตร (อาจเกิด Circular Reference) |
R1C | บรรทัดที่ 1, คอลัมน์ปัจจุบัน |
RC1 | บรรทัดปัจจุบัน, คอลัมน์ที่ 1 |
R2C2 | บรรทัดที่ 2, คอลัมน์ที่ 2 |
R[1]C[2] | บรรทัดถัดไป 1 แถว, คอลัมน์ถัดไป 2 ช่อง (Relative) |
R[-5]C[3] | ย้อนขึ้นไป 5 แถว, ขยับขวา 3 ช่อง (Relative) |
🔎 ตัวอักษร R หมายถึง “Row” (บรรทัด), ตัวอักษร C หมายถึง “Column” (คอลัมน์)
🧪 ตัวอย่างการใช้งานกับฟังก์ชัน INDIRECT แบบ R1C1
| สูตร | ผลลัพธ์ |
|---|---|
=INDIRECT("RC",0) | Error (อ้างอิงเซลล์ตัวเอง → วนซ้ำ) |
=INDIRECT("R3C",0) | แสดงค่าจากเซลล์ A3 |
=INDIRECT("R[3]C",0) | แสดงค่าจากเซลล์ A4 (ถัดไป 3 แถวจากเซลล์ปัจจุบัน) |