การเรียนรู้ Excel ให้เข้าใจพื้นฐานที่แท้จริงเพื่อให้เรียนรู้ในระดับกลาง ระดับสูง ต่อไปได้อย่างราบรื่นนั้นมีสิ่งใดที่สำคัญและจำเป็นที่ท่านจะต้องทราบก่อนบ้าง โปรดติดตามได้ในบทความนี้
พื้นฐานที่สำคัญที่ต้องทราบ
-
- ชนิดของข้อมูลใน Excel
- ตัวดำเนินการในการคำนวณ
- การใช้งานฟังก์ชัน
ชนิดของข้อมูลใน Excel
สิ่งสำคัญแรกสุดในการทำงานกับ Excel คือ ท่านจะต้องทราบเสียก่อนกว่า Excel สามารถรับค่าแบบใดได้บ้าง และสังเกตได้อย่างไรว่าค่านั้นตรงกับความต้องการที่แท้จริง
Excel สามารถรับรูปแบบของค่าต่าง ๆ ที่คีย์ลงไปในเซลล์ได้ 4 รูปคือ
- ตัวเลข ได้แก่ตัวเลขต่าง ๆ รวมถึง วันที่ และเวลา
- ตัวอักษร ได้แก่ตัวอักษรทุกชนิด รวมถึงตัวเลขที่คีย์แบบตัวอักษร คือมีสัญญลักษณ์ ‘ นำหน้าตัวเลข เช่น ‘0123
- ค่าตรรกะ มี 2 ค่าคือ
- True มีค่าเทียบเท่ากับเลข 1
- False มีค่าเทียบเท่ากับเลข 0
- ค่าผิดพลาด มี 7 ชนิดคือ
- #DIV/0 เกิดจากการหารตัวเลขใด ๆ ด้วย 0 เช่น
=1/0 - #N/A เกิดจากไม่พบค่าที่ค้นหาด้วยสูตรจำพวก Lookup และ Match เช่น =Match(“A”,{“C”,”D”},0)
- #NAME? เกิดจากการอ้างอิงชื่อ Range Name ไม่ถูกต้อง โดยส่วนใหญ่เกิดจากการคีย์ชื่อสูตรผิดพลาด เช่น
=A+10 - #NULL! เกิดจากช่วงเซลล์ 2 ช่วงที่ไม่เป็น Intersection กัน เช่น
=Sum(A1:B2 C1:D2) - #NUM! เกิดจากการแสดงค่าตัวเลขในสูตร เช่นมีตัวเลข 3 ลำดับแต่ต้องการให้แสดงค่าที่น้อยที่สุดเป็นลำดับ 10 ดังสูตร
=Small({1,3,5},10) - #REF! เกิดจากการอ้างอิงตำแหน่งเซลล์ไม่ถูกต้อง เช่น มีข้อมูล 4 คอลัมน์ แต่เขียนสูตรให้แสดงค่าในคอลัมน์ที่ 10 ดังสูตร
=Index({1,2,3,4},10) - #VALUE! เกิดจากการใส่รูปแบบข้อมูลในสูตรไม่ตรงกับค่าที่อนุญาตและการใช้ตัวดำเนินการไม่ตรงกับชนิตข้อมูล เช่น เอา Text บวกกับ Number ดังสูตร
=”A”+20
- #DIV/0 เกิดจากการหารตัวเลขใด ๆ ด้วย 0 เช่น
ลักษณะและการแสดงการจัดตำแหน่งของข้อมูลที่มีรูปแบบข้างต้นในเซลล์ จะเป็นดังภาพ

การเข้าใจถึงประเภทข้อมูลและลักษณะการแสดงผลข้อมูลใน Excel นั้นถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเมื่อเข้าใจแล้วก็จะแยกความแตกต่างของข้อมูลได้ จะนำไปสู่การแก้ปัญหาในเบื้องต้นได้
ยกตัวอย่างเช่น หากพบว่าตัวเลขชิดซ้ายเซลล์โดยที่ยังไม่ได้จัดรูปแบบใด ๆ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าตัวเลขนั้นไม่ใช่ตัวเลขที่แท้จริง หากนำไปเทียบกับตัวเลขที่แท้จริงย่อมจะมีค่าไม่เทียบเท่ากัน หากใช้สูตร Lookup ข้อมูลมาแสดง โดยที่ข้อมูลต้นทางและปลายทางเป็นข้อมูลคนละประเภทย่อมจะให้คำตอบเป็นค่าผิดพลาด
ตัวดำเนินการในการคำนวณ
เนื่องจาก Excel คือโปรแกรมที่สร้างมาเพื่อใช้ในการคำนวณโดยตรง ดังนั้น ตัวดำเนินการในการคำนวณเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่จะต้องทราบในลำดับต้น ๆ เช่นกัน สามารถศึกษาได้จากบทความใน Link นี้ ตัวดำเนินการในการคำนวณ
การใช้งานฟังก์ชัน
โปรแกรม Excel ถูกออกแบบให้ผู้ใช้งานสามารถเขียนสูตรได้โดยง่ายแม้จะไม่มีความรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นใน Excel มาก่อนเลยก็ตาม
คำว่า “สูตร” และ “ฟังก์ชั่น” ถูกใช้แทนกันจนเป็นปกติ ทั้งที่จริงแล้วให้ความหมายที่แตกต่างกันในเรื่องของความซับซ้อน โดยฟังก์ชั่นจะหมายถึงฟังก์ชั่นใด ๆ แบบเดี่ยว ๆ ส่วนสูตรจะหมายถึงการใช้ฟังก์ชั่นกระทำกับค่าคงที่หรือเป็นการใช้ฟังก์ชั่นซ้อน ๆ กัน
Excel มีเครื่องมือสำหรับการสร้างและติดตามสูตรดังนี้
- Formula Bar ประกอบด้วย
- Name Box กรณีทั่วไปจะใช้แสดง Range Name แบบพื้นที่คงที่ หากใช้ร่วมกับการเขียนฟังก์ชั่นจะใช้ในการแสดงฟังก์ชั่นที่ใช้บ่อยและการแทรกฟังก์ชั่นซ้อนเข้าไปในฟังก์ชั่นปัจจุบัน
- ปุ่ม Cancel เพื่อยกเลิกการเขียนฟังก์ชั่น
- ปุ่ม Enter เพื่อสิ้นสุดการเขียนฟังก์ชั่น
- ปุ่ม Insert Function เพื่อแสดงกล่องโต้ตอบ
- Insert Function เมื่อคลิกเซลล์ว่างเปล่า
- Function Arguments เมื่อคลิกเซลล์ที่มีสูตร
- Formula Box เพื่อแสดงสูตร ปรับปรุงแก้ไขสูตร
- Formula Auditing อยู่ในเมนู Formulas ประกอบด้วย
- Trace Precedents เป็นการติดตามว่าสูตรในเซลล์ปัจจุบันมาจากเซลล์ใด โปรแกรมจะแสดงเส้นโยงขึ้นมาให้ติดตามได้สะดวก สามารถ Double Click บนเส้นนั้นเพื่อไปยังปลายทางได้ทันที
- Trace Dependents เป็นการติดตามว่าสูตรในเซลล์ปัจจุบันส่งค่าไปยังเซลล์ใดโปรแกรมจะแสดงเส้นโยงขึ้นมาให้ติดตามโดยสะดวก สามารถ Double Click บนเส้นนั้นเพื่อไปยังปลายทางได้ทันที
- Remove Arrows เป็นการปิดการแสดงเส้นโยงตามข้อ 1 และ 2
- Error Checking เป็นการติดตามค่าผิดพลาดในสูตร
- Evaluate Formula เป็นการประเมินสูตรเพื่อแสดงลักษณะการคำนวณผลลัพธ์
ตัวอย่างการใช้ Formula Bar ในการเขียนสูตร
- คลิกเซลล์ว่างเปล่า
- คลิกปุ่ม Fx บน Formula Bar
- คีย์คำสำคัญของสูตรที่ต้องการเช่น Find, Match, Sum เป็นต้น หากทราบว่าเป็นฟังก์ชั่นกลุ่มใดสามารถเลือกกลุ่มฟังก์ชั่นได้จาก Or select a category ได้อีกด้วย
- คลิกปุ่ม Go เพื่อแสดงรายการที่ตรงกับค่าที่คีย์ในกล่อง Select Function
- เลือกฟังก์ชั่นที่ต้องการ
- คลิกปุ่ม OK จะแสดงกล่องโต้ตอบ Function Arguments ดังด้านล่าง ซึ่งประกอบด้วย
- ฟังก์ชั่น Arguments แสดงส่วนประกอบของฟังก์ชั่น พร้อมกับ Data Type โดยในส่วนของ Data Type จะกลายเป็นการประเมินสูตรให้ด้วยเมื่อมีการคีย์ค่าใด ๆ เข้าในแต่ละกล่อง Argument
- คำอธิบายฟังก์ชั่น
- คำอธิบายแต่ละ Argument เมื่อคลิกช่อง Argument ใด ๆ ก็จะอธิบายถึง Argument นั้น
- แสดงผลลัพธ์ของสูตร
- ปุ่ม OK สำหรับยอมรับสูตร ปุ่ม Cancel สำหรับยกเลิกการเขียนสูตร
ตัวอย่างการเขียนสูตรข้างต้นดังกล่าวมานี้ เป็นการเริ่มต้นการเขียนฟังก์ชั่นที่แท้จริง แม้จะไม่เคยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับฟังก์ชั่นก็สามารถทำความเข้าใจไปทีละลำดับโดยใช้กล่องโต้ตอบที่ Excel ได้เตรียมเอาไว้ให้ได้ หากต้องการเห็นตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชั่นนั้น ๆ สามารถคลิก Link ตรงข้อความ Help on this function เพื่อไปยังเว็บของ Microsoft ที่อธิบายถึงฟังก์ชั่นนั้นโดยละเอียด
กรณีมีปัญหาการใช้งาน Excel and VBA สามารถสอบถามได้ที่ Excel Forum





