Excel and SQL working together in a calm workspace, illustrating thoughtful system design.

เมื่อ Excel เป็นแค่เพียงหนึ่งในการพัฒนาระบบงาน

บันทึกของผู้สร้างระบบที่ซ่อนความซับซ้อนไว้หลังความเรียบง่าย

🔢 Excel กับบทบาทที่ผู้ใช้คุ้นเคย

ในการพัฒนาระบบงานในองค์กร สิ่งที่มักถูกพิจารณาเป็นอันดับต้น ๆ คือ Excel เพราะมันใช้งานง่าย ยืดหยุ่น และเป็นเครื่องมือที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่คุ้นเคย แต่เมื่อระบบต้องรองรับข้อมูลจำนวนมาก มีความซับซ้อนในเชิงตรรกะ และต้องการความเร็วในการประมวลผล Excel เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ

ในงานจริงที่ผมเคยทำ Excel เป็นเพียง “หน้าต่าง” ที่เปิดให้ผู้ใช้เข้าถึงระบบที่ลึกกว่านั้น เบื้องหลังของปุ่มที่ดูเรียบง่าย คือกลไกที่เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลระดับองค์กร และนั่นคือสิ่งที่ผมอยากเล่าให้ฟังในบทความนี้

🧠 เบื้องหลังที่ดูว่าเรียบง่าย

ผู้ใช้เห็นเพียงเมนูใน Excel ที่ใช้งานง่าย คลิกปุ่ม → ใส่ข้อมูล → ได้ผลลัพธ์ แต่เบื้องหลังนั้นคือระบบที่เชื่อมต่อกับ SQL Server ใช้ Stored Procedure และ Table-Valued Parameter เพื่อประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก บางระบบต้องมีการ Mapping, Matching, Lookup หลายชั้นก่อนจะส่งข้อมูลเข้าสู่กระบวนการหลัก

ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบให้ซ่อนอยู่หลังอินเตอร์เฟซที่ผู้ใช้คุ้นเคย เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น โดยไม่ต้องเรียนรู้เทคโนโลยีเบื้องหลัง และเพื่อให้ผู้ใช้ “รู้สึกว่าใช้งานง่าย” แม้ระบบจะซับซ้อนเพียงใดก็ตาม

👨‍💻 เหตุผลที่ไม่ใช้ Low-Code หรือ RPA

ในบางองค์กรมีเครื่องมือ Low-Code หรือ RPA ที่ดูเหมือนจะตอบโจทย์ แต่ในงานที่ต้องการความเร็วสูงและความแม่นยำในการจัดการข้อมูลจำนวนมาก เครื่องมือเหล่านั้นกลับกลายเป็นข้อจำกัด

การดึงข้อมูลผ่าน Front-End ที่เป็น Web ทำให้ RPA ทำงานได้ช้า ระบบบางอย่างต้องประมวลผลข้อมูลหลายหมื่นรายการภายในไม่กี่วินาที ต้องมีการจัดการสิทธิ์ ความลับ และตรรกะที่ซับซ้อน ซึ่งระบบที่เขียนขึ้นเองโดยใช้ Excel เป็น UI และ SQL เป็นกลไกหลัก สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้ดีกว่าอย่างชัดเจน

🤐 ความเงียบที่เลือกไว้ และผลที่ตามมา

ผมไม่เคยพูดว่าระบบเหล่านี้ซับซ้อน ไม่เคยอธิบายว่ามันใช้เทคโนโลยีอะไร ไม่เคยบอกว่าผมเป็นคนเดียวที่เขียนมันขึ้นมา ผมเลือกที่จะเงียบ เพราะไม่อยากให้ใครรู้สึกด้อย ไม่อยากให้ใครรู้สึกว่าผมกำลังโอ้อวด และไม่อยากให้ความจริงบางอย่างไปกระทบใจใครโดยไม่จำเป็น

แต่ความเงียบที่ตั้งใจไว้…กลับทำให้ไม่มีใครรู้ว่าระบบนั้นเกิดจากการผสมผสานหลายเทคโนโลยี ไม่มีใครรู้ว่ามันช่วยลดต้นทุนการพัฒนาไปเท่าไร ไม่มีใครรู้ว่าหากระบบนี้มีปัญหา จะใช้เวลานานเพียงใดในการค้นหาสาเหตุ และไม่มีใครรู้ว่า…หากต้องทำด้วยมือทั้งหมด จะเกิดปัญหาอะไรตามมาบ้าง

🧩 บทสรุป: ผมไม่ใช่แค่ Excel

ผมได้รับคำชมว่า “เก่ง Excel” และผมยอมรับด้วยความขอบคุณ แต่ในความเป็นจริง งานที่ผมทำมีมากกว่านั้น

ผมใช้ Excel เป็นภาษาที่ผู้ใช้เข้าใจ แต่เบื้องหลังคือระบบที่ออกแบบอย่างมีชั้นเชิง ผมไม่ใช่แค่คนที่เขียนสูตรหรือสร้างเมนู แต่คือผู้ที่เข้าใจทั้งคนและข้อมูล และเลือกที่จะเงียบ…เพื่อให้ระบบทำงานได้ โดยไม่ทำร้ายใครด้วยความจริงที่เขายังไม่พร้อมจะรับ

บทความนี้คือเสียงที่ดังพอให้ได้ยิน สำหรับใครก็ตามที่อยากรู้ว่า เบื้องหลังของระบบที่ใช้งานง่ายนั้น…มีความเข้าใจลึกซ่อนอยู่มากเพียงใด

และหากเสียงนี้ไปถึงใครสักคนที่พร้อมจะฟัง ผมก็ถือว่าผลงานของผม…ได้พูดแทนผมแล้วครับ

Scroll to Top