สูตรตรวจสอบความถูกต้องของเลขบัตรประชาชน

การจะทราบได้อย่างไรว่าเลขบัตรประชาชนเป็นของจริงหรือของปลอมนับเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบหลักฐานของบุคคลใด ๆ เนื่องจากทราบกันดีอยู่แล้วว่าบัตรประจำตัวประชาชนนั้นสามารถทำของปลอมขึ้นมาได้

ด้วยเหตุนี้ “สูตรตรวจสอบเลขบัตรประชาชน” จึงเป็นข้อความที่ถูกค้นหามากเป็นอันดับต้น ๆ ของ snasui.com

การเขียนถึงการตรวจสอบความถูกต้องของหมายเลขประจำตัวประชาชน มีส่วนดีกับบุคคล 2 ฝ่าย คือฝ่ายที่ตรวจสอบว่าบัตรประชาชนเป็นของปลอมหรือไม่ และฝ่ายที่ทำบัตรประชาชนปลอมเพื่อที่จะหาหมายเลขที่สามารถผ่านการตรวจสอบด้วยวิธีนี้ได้

เมื่อทราบดังนี้แล้วขอให้คำนึงเสมอว่า แม้จะตรวจสอบหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนด้วยสูตรแล้วไม่พบว่าผิดปกติแต่ก็ยังเชื่อไม่ได้ว่าหมายเลขนั้นไม่ได้ทำปลอมขึ้นมาแต่อย่างใด

ความหมายของหมายเลขต่าง ๆ ในบัตรประชาชน

  1. ประเภทของบุคคล มีทั้งหมด 8 ประเภท
  2. สถานที่เกิดหลักที่ 1
  3. สถานที่เกิดหลักที่ 2
  4. สถานที่เกิดหลักที่ 3
  5. สถานที่เกิดหลักที่ 4
  6. เลขในทะเบียนบ้านหลักที่ 1
  7. เลขในทะเบียนบ้านหลักที่ 2
  8. เลขในทะเบียนบ้านหลักที่ 3
  9. เลขในทะเบียนบ้านหลักที่ 4
  10. เลขในทะเบียนบ้านหลักที่ 5
  11. ลำดับของการเกิดหลักที่ 1
  12. ลำดับของการเกิดหลักที่ 2
  13. ตรวจสอบความถูกต้องของตัวเลข 12 หลักแรกของกรมการปกครอง

หลักการตรวจสอบหมายเลขบัตรประชาชน

สมมุติตัวเลขบัตรประชาชนคือ 1234567890121 มีหลักการการตรวจสอบดังนี้

  1. หาผลรวมของตัวเลข 12 หลักแรก โดยแต่ละตัวคูณกับหมายเลขประจำหลัก โดยหลักแรกสุดนับจากด้านหน้าคือหลักที่ 13 หลักถัดมาคือ 12 เช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนถึงหลักที่ 2 จะได้เป็น
    (13*1)+(12*2)+(11*3)+(10*4)+(9*5)+(8*6)+(7*7)+(6*8)+(5*9)+(4*0)+(3*1)+(2*2) ผลรวมจะได้เป็น 352
  2. นำผลลัพธ์ของข้อ 1 มาหารด้วย 11 แล้วนำเศษจากการหารมาเป็นผลลัพธ์จะได้เป็น 352/11 ผลลัพธ์คือ 32 เศษจากการหารเป็น 0 สังเกตว่าไม่มีเศษจากการหารเพราะหารลงตัวพอดี ดังนั้นผลลัพธ์ตามข้อนี้คือ 0
  3. นำ 11 มาเป็นตัวตั้งแล้วนำผลลัพธ์ตามข้อ 2 ไปหักออกจะได้เป็น 11-0 ผลลัพธ์คือ 11
  4. นำตัวเลขหลักท้ายสุดของข้อ 3 ไปเทียบกับตัวเลขหลักท้ายสุดของบัตรประชาชนว่าเท่ากันหรือไม่ หากเท่ากันแสดงว่าเป็นหมายเลขบัตรประชาชนที่ถูกต้อง จากกรณีนี้ เลขหลักท้ายสุดของข้อ 3 คือ 1 และหมายเลขบัตรประชาชนหลักสุดท้ายคือ 1 เช่นกัน จึงถึอได้ว่าหมายเลขประชาชนเป็นหมายเลขที่ถูกต้อง

ลักษณะของการหาเศษจากการหารตามข้อ 2 จะเป็นดังนี้

สมมุติใหม่ว่าผลลัพธ์ตามข้อ 1 เป็น 350 เมื่อนำมาหารด้วย 11 จะได้เป็น 350/11 ผลลัพธ์คือ 31.818 จะเห็นว่าเป็นการหารลงตัวแค่ 31 ครั้งและมีเศษจากการหารคือ 0.818 แต่ตัวเลขเศษที่ได้นี้ไม่ใช่เศษการหารที่จะนำไปใช้ได้ตามแนวคิดนี้ กล่าวคือ เราจะนำจำนวนครั้งที่หารลงตัวมาหาเศษจากการหารอีกครั้งหนึ่ง นั่นคือ 350-(31*11) จะได้เป็น 350-341 ผลลัพธ์ที่ได้คือ 9 ดังนั้น เศษจากการหารคือ 9

การตรวจสอบตัวเลขบัตรประชาชนด้วยสูตร Excel

จากวิธีการคำนวณข้างต้นหากใช้สูตร Excel มาช่วยคำนวณก็จะเกิดความสะดวกมากขึ้น สมมุติว่าตัวเลขบัตรประชาขนอยู่ที่ A1 ที่เซลล์ B1 เขียนสูตรเพื่อตรวจสอบได้เป็น

=MOD(11-MOD(SUMPRODUCT(--MID(A1,ROW($1:$12),1),14-ROW($1:$12)),11),10)-RIGHT(A1)

หรือ

=RIGHT(11-MOD(SUMPRODUCT(--MID(A1,ROW($1:$12),1),14-ROW($1:$12)),11))-RIGHT(A1)

Enter

หากผลลัพธ์ได้เป็น 0 แสดงว่าหมายเลขประชาชนดังกล่าวเป็นหมายเลขที่ถูกต้อง

กรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้งาน Microsoft Excel สามารถสอบถามได้ที่ Excel Forum

Scroll to Top