😛 Wildcard คืออักขระที่ใช้แทนอักขระอื่น ใน Excel จะมี Wildcard มีอยู่ 2 อักขระ นั่นคือเครื่องหมาย ? ใช้แทนอักขระเพียง 1 ตัว และอีกเครื่องหมายคือ * ใช้แทนอักขระไม่จำกัดจำนวน ในบทความนี้เราจะใช้ * เป็นตัวช่วยในการรวมข้อมูลจากหลาย ๆ ชีต โดยมีชีตหลักเพื่อไว้สรุปข้อมูลจากชีตย่อย ๆ
โดยปกติในการรวมข้อมูลหลายชีตจะใช้วิธีการแบบใดขึ้นอยู่กับชีตที่จะนำมารวมข้อมูล นั่นคือ
หากชีตที่ต้องการรวมข้อมูลอยู่ติดกัน สามารถทำได้โดย
- เลือกเซลล์ที่ต้องการใช้แสดงผลรวมในชีตหลัก
- คีย์สูตร
=Sum(
- คลิกแถบชีตแรกที่ต้องการรวมข้อมูล
- กดแป้น Shift ค้างไว้
- คลิกเลือกแถบชีตสุดท้ายที่ต้องการวมข้อมูล
- ปล่อยแป้น Shift
- คีย์วงเล็บปิดแล้ว Enter สมมุติว่าต้องการรวมข้อมูล B7 ของ Sheet2 ถึง Sheet30 สูตรจะมีลักษณะเป็นเช่นด้านล่าง
=Sum(Sheet2:Sheet30!B7)
หากชีตที่ต้องการรวมข้อมูลไม่อยู่ติดกัน สามารถทำได้โดย
- เลือกเซลล์ที่ต้องการใช้แสดงผลรวมในชีตหลัก
- คีย์สูตร
=Sum(
- คลิกแถบชีตแรกที่ต้องการรวมข้อมูล
- คลิกเลือกเซลล์ในชีตแรกที่ต้องการข้อมูล
- คีย์เครื่องหมายคอมม่า
- คลิกแถบชีตถัดมาที่ต้องการรวมข้อมูล
- คลิกเซลล์ในชีตถัดมาที่ต้องการรวมข้อมูล
- ทำข้อ 6-7 ซ้ำจนครบทุกชีต
- คีย์วงเล็บปิดแล้ว Enter สมมุติต้องการวามข้อมูลใน B7 ของชีตเหล่านี้คือ Sheet2, Sheet3, Sheet9 และ Sheet30 สูตรจะได้เป็นเช่นด้านล่าง
=Sum(Sheet2!B7,Sheet3!B7,Sheet9!B7,Sheet30!B7)
ในการทำงานจริง หากมีการกำหนดชีตไว้เป็นกลุ่ม ๆ โดยสามารถแยกแยกระหว่างกลุ่มได้แล้ว เราสามารถนำ Wildcard มาใช้เพื่อความสะดวกในการรวมข้อมูลได้ ยกตัวอย่างเช่นตามภาพด้านล่าง มีการแยกชีตเป็นกลุ่ม PBx, PDx เป็นต้น (x คือเลขต่อท้ายชื่อชีต)
หากเราต้องการรวมข้อมูลของชีตที่ขึ้นต้นด้วย PD ทั้งหมดสามารถทำได้ดังนี้
- ที่ชีต SumPD คลิกเลือกเซลล์ C2
- คีย์สูตร
=Sum('PD*'!C2)
Enter
โดยเราจะแทนตัวเลขต่าง ๆ ที่ต่อท้ายชื่อชีตด้วย Wildcard (เครื่องหมาย *) สูตรจะกลายเป็น =SUM('PD1:PD3'!C2)
ซึ่งจะรวมข้อมูลในเซลล์ C2 ของทุกชีตที่ขึ้นต้นด้วย PD มาให้ตามต้องการ 😎
มีปัญหาการใช้งาน Excel and VBA สอบถามได้ที่ snasui.com
Revised: January 29, 2017 at 07:04