สอบถามเรื่องการนับจำนวนคนใน Excel

[jullathep]

เรื่องมีอยู่ว่า ผมต้องการนับจำนวนคน ในแต่ละคอลัมภ์ L O R ถ้าชื่อใน cell ไหนเหมือนกันให้นับเป็น 1
เช่น ตัวอย่าง ใน ไฟล์ แถวที่ 2 จะมีค่าเท่ากับ 2 คน ครับ ผมต้องใส่สูตรว่าอย่างไรครับ ขอบคุณครับ

[Supachok]

T2
=(SUM(IF(R2=L2:O2,1))+SUM(IF(L2=O2,1)))

Array formula
{}

[jullathep]

T2
=(SUM(IF(R2=L2:O2,1))+SUM(IF(L2=O2,1)))

Array formula
{}

ขอบคุณครับผม

[jullathep]

T2
=(SUM(IF(R2=L2:O2,1))+SUM(IF(L2=O2,1)))

Array formula
{}

ขอบคุณครับผม

ผมลองแล้ว มันขึ้น #VALUE!

[Supachok]

{}

ต้องกด Ctrl + Shift + enter

[jullathep]

{}

ต้องกด Ctrl + Shift + enter

ได้แล้วครับ แต่รบกวนอีกนิดครับ คือ ชัยณรงค์ ธัญลักษณ์ ธัญลักษณ์ รวมกันต้องได้ 2 คนครับพี่ คือ คนที่ซ้ำนับเป็น 1 คนครับ และ ซ้ำ 3 ชื่อก็นับแค่ 1 ครับผม รบกวนด้วยครับ

[logic]

ลองดูครับ

ใช้ If, Or, And ครับ

T2 =IF(AND(L2=O2,L2=R2),3,IF(OR(L2=O2,L2=R2,O2=R2),2,1))

คำตอบ ซ้ำ 3 ได้ 3, ซ้ำ 2 ได้ 2, ไม่ซ้ำ ได้ 1

[jullathep]

ลองดูครับ

ใช้ If, Or, And ครับ

T2 =IF(AND(L2=O2,L2=R2),3,IF(OR(L2=O2,L2=R2,O2=R2),2,1))

คำตอบ ซ้ำ 3 ได้ 3, ซ้ำ 2 ได้ 2, ไม่ซ้ำ ได้ 1

ขอบคุณมากคร้าบบ

[parakorn]

อีกแบบครับ
T2 =ROUNDUP(SUBSTITUTE(SUBSTITUTE(COUNTIF($L2:$S2,$L2:$M2),2,0.5),3,0.33)+SUBSTITUTE(SUBSTITUTE(COUNTIF($L2:$S2,$O2:$P2),2,0.5),3,0.33)+SUBSTITUTE(SUBSTITUTE(COUNTIF($L2:$S2,$R2:$S2),2,0.5),3,0.33),0) Ctrl+Shift+Enter แล้วลากลงครับ

[parakorn]

อีกแบบครับ
T2 =ROUNDUP(SUBSTITUTE(SUBSTITUTE(COUNTIF($L2:$S2,$L2:$M2),2,0.5),3,0.33)+SUBSTITUTE(SUBSTITUTE(COUNTIF($L2:$S2,$O2:$P2),2,0.5),3,0.33)+SUBSTITUTE(SUBSTITUTE(COUNTIF($L2:$S2,$R2:$S2),2,0.5),3,0.33),0) Ctrl+Shift+Enter แล้วลากลงครับ

ใช้ของคุณ logic จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องกว่าครับ เพราะมีบางคน ชื่อเหมือนนามสกุล ทำให้ผลลัพท์ ผิดพลาดครับ

[Supachok]

{}

ต้องกด Ctrl + Shift + enter

ได้แล้วครับ แต่รบกวนอีกนิดครับ คือ ชัยณรงค์ ธัญลักษณ์ ธัญลักษณ์ รวมกันต้องได้ 2 คนครับพี่ คือ คนที่ซ้ำนับเป็น 1 คนครับ และ ซ้ำ 3 ชื่อก็นับแค่ 1 ครับผม รบกวนด้วยครับ

T2
=IFERROR(SMALL(IF((COUNTIF(K2:R2,K2:R2)*IF({1,2,3,1,2,3,1,2}=2,1))>1,1),1),0)
{}

แบบนี้ไหมครับ นับแล้วผลเมื่อซ้ำ = 1

[Bo_ry]

เข้าใจแบบนี้
T2
=MAX(1,(L2<>O2)+(O2<>R2)+(L2<>R2))