มาอีกแล้ว เรียนรู้การเขียนสูตรเกี่ยวกับเวลา ทำไมได้อีกแล้ว

[ซำเหมา]

ผมพยายาม จะเขียนสูตร หาจำนวน ชม. ในช่วงเวลาภายใน 16:30 เป็น ชม.ใช้งานในเวลา
และชม.ใช้งาน นอกเวลา ตามลำดับ
เจอข้อแรก ก็ทำไม่ได้ ลองเขียนมาดังนี้
=IF(D4>="16:30/24","",E4)
ถ้า ช่องD4มากกว่าหรือเท่ากับ เวลา 16:30 ให้ใส่ช่องว่าง ไม่งั้นให้ใส่เวลาที่ E4 แทน
คือ ต้องการแยก ช่วงเวลา ในเวลาคือ 8.30-16.30 นอกนั้นคือนอกเวลา รวมทั้ง เสาร์อาทิตย์คือนอกเวลา
แต่ยังเขียนไม่ได้เลย ทำแค่ในเวลาก่อน
ช่วยแก้ให้ด้วยครับ
เอาแบบง่ายๆเข้าใจง่ายด้วยนะครับ จากง่ายไปยาก อยากทำเองได้บ้าง

[cruzz]

รูปแบบที่ผมใช้หาเวลา (แบบใช้ส่วนตัวครับ) คือ 19/2/2014 13:00:00 ใส่แบบนี้เข้าไปในเซลล์เดียวเลยครับ
เวลาสั่งให้ + หรือ - ค่าที่ต้องการก็แสดงผลได้ถูกต้องดีครับ เช่น
19/2/2014 13:30:00 - 19/2/2014 13:00:00 = 0:30:00 <= ค่าผลลัพท์แสดงตาม Format Cell ที่เราต้องการครับ

[ซำเหมา]

ขอบคุณครับ เดี๋ยวไปทดสอบก่อนครับ

[ซำเหมา]

ยิ่งเขียนก็ยิ่งงง ทำไมมันไม่เป็น "" ก็หารด้วย 24 ก็แล้ว D4=16:30 ต้องเป็น ช่องว่าง แต่ไม่ยอมเป็น
รอ ผู้รู้มาเฉลยดีกว่า ไม่ไหว

[snasui]

ตัวอย่างสูตรที่เซลล์ F4 ครับ

=IF(E4="","",IF(MOD(D4,1)>="16:30"+0,"",E4))

[ซำเหมา]

ขอบคุณครับอาจารย์ เดี๋ยวไปทำความเข้าใจก่อนครับ mod ของใหม่ สำหรับผม
อธิบายได้ไม๊ครับ
ผมลองคิดเอง
ถ้า E4เท่ากับช่องว่างให้ใส่ช่องว่าง ไม่งั้นถ้า MOD ตรงนี้ไม่เข้าใจ มากกว่าหรือเท่ากับ 16:30 ต้องใส่ " "เพราะอะไร ให้ใส่ช่องว่าง หรือไม่งั้นก็ ค่าในช่อง E4

[ซำเหมา]

สูตรใช้งานได้ครับอาจารย์
แต่ยังไม่เข้าใจความหมายสูตร

[snasui]

ที่ลองคิดมานั้นถูกต้องแล้วครับ

การครอบด้วย " " เป็น "16:30" นั้น เป็น เพราะสูตรจะไม่รู้จักว่าเป็นเวลาเนื่องจากไปซ้ำกับค่าบรรทัดใน Excel ซึ่งปกติค่าบรรทัดเราจะใช้กับฟังก์ชั่น Row, Rows ยกตัวอย่างเช่น Rows(16:30) หมายถึงจำนวนบรรทัดจากบรรทัดที่ 16 ถึงบรรทัดที่ 30 เป็นต้น

และเมื่อครอบด้วย " " แล้วตัวเลข 16:30 จะกลายเป็น Text จึงบวกด้วย 0 เข้าไปอีกรอบเพื่อให้กลับมาเป็นเวลาครับ

[ซำเหมา]

ความรู้ใหม่สำหรับผมเลยครับ รวมทั้ง การทำเป็น text การทำเป็นเวลา

ตรงนี้แปลว่าอะไรครับ
IF(MOD(D4,1)
ยังไม่เข้าใจ

[snasui]

เป็นการหาเศษที่เหลือจากการหาร D4 ด้วย 1 ลงตัวครับ

เซลล์ D4 มีทั้งวันที่และเวลา วันที่จะเป็นจำนวนเต็ม ส่วนเวลาจะอยู่ในรูปเศษทศนิยม

=Mod(D4,1) จึงเป็นการนำเฉพาะเศษทศนิยมซึ่งเป็นเวลามาใช้นั่นเอง

[ซำเหมา]

=IF(E4="","",IF(MOD(D4,1)>="16:30"+0,"",E4))
ถ้า ค่าในช่อง E4เท่ากับ ช่องว่างให้ใส่ช่องว่าง ถ้าค่าเวลา ในช่อง d4 มากกว่าหรือเท่ากับ เวลา 16:30 ให่ใส่ช่องว่าง ไม่เช่นนั้นให้นำค่า ในช่อง E4 มาใส่แทน
ผมเข้าใจแบบนี้ แต่ยังงงกับ MOD
ในช่อง D4 มี วันที่ กับ กับเวลา
10/1/2014 4:30:00 PM
คำสั่ง =MOD(D4,1) แทน เวลา 4:30:00 PM ใช่หรือไม่ครับ
ที่เราต้องทำแบบนี้เพราะ มันมีวันที่และเวลา คือเป็นคำสั่งแยกเอาเวลามาใช้งานใช่หรือไม่ครับ
แล้วในช่องนั้นไม่มีวันที่ เราต้องใช้คำสั่ง MOD(D4.1) หรือไม่ครับ
แบบนี้ เราลบวันที่ทิั้งได้ไม๊ครับ สมมตินะครับ
แต่มันเยอะคงไม่เอาดีกว่า คือผมถามเพราะสงสัยนะครับ พอดีคำสั่ง MOD(D4,1)
ผมคิดเองคงไม่มีวันได้แน่ เลย อยากหาวิธีที่ง่ายกว่านี้เอง เลยต้องถามมากหน่อยครับ
อย่าเพิ่งรำคาญนะครับ อาจารย์

[snasui]

แล้วในช่องนั้นไม่มีวันที่ เราต้องใช้คำสั่ง MOD(D4.1) หรือไม่ครับ

ที่เขียนมานั้นเข้าใจถูกต้องแล้วครับ จะมีวันที่หรือไม่มีวันที่ Mod(D4,1) ก็จะได้ค่าเฉพาะเวลาได้เหมือนกัน แต่หากไม่มีวันที่ เราไม่จำเป็นต้องใช้ Mod

การเขียนสูตรควรใช้เฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น เพราะทุกสูตรจะเกิดการคำนวณเป็นการสร้างภาระให้กับไฟล์ แม้เป็นสูตรง่าย ๆ แต่หากใช้จำนวณมากก็จะเกิดการคำนวณนานได้เช่นกันครับ

[ซำเหมา]

เข้าใจแล้วครับ ขอบพระคุณมากครับอาจารย์ ผมรู้สึกว่า เวลาใช้สูตรมันสนุกดีครับ แม้จะง่ายๆแต่สำหรับผม มันค่อนข้างยาก เหมือนได้ของเล่นใหม่
ถ้าเราใช้สูตร แล้ว copy แล้ว past แบบให้สูตรหายแล้วค่ายังคงอยู่ แบบนี้ ภาระของไฟล์จะยังคงอยู่หรือไม่ครับ

[snasui]

ถ้าเราใช้สูตร แล้ว copy แล้ว past แบบให้สูตรหายแล้วค่ายังคงอยู่ แบบนี้ ภาระของไฟล์จะยังคงอยู่หรือไม่ครับ

เมื่อไม่เป็นสูตรก็จะไม่เกิดภาระการคำนวณสำหรับส่วนนั้นครับ

[ซำเหมา]

รับทราบครับ สูตรที่อาจารย์แนะนำ ทำให้ผมทำงานได้สบายขึ้นมากเลยครับ ไม่ต้องนั่งลบ นั่งกรอก นั่วบวกลบ ตาแทบแตก พิมพ์งานก็ไม่เก่ง ตอนนี้ พิมพ์น้อยลงมาก
ขอให้อาจารย์มีความสุข ตลอดไปนะครับ เดี๋ยวผมติดอะไรจะขอคำแนะนำอีก ตอนนี้ก็เตาะแตะไปก่อน ดีกว่าเดิมเยอะมากๆ