ตรวจสอบและปรับปรุงไฟล์ Excel ให้เร็วและเสถียรด้วย File Anatomy Add-in
เครื่องมือนี้ช่วยวิเคราะห์โครงสร้างไฟล์อย่างละเอียด เช่น สูตร, ลิงก์, PivotTable, Styles และ Objects
พร้อมฟังก์ชันล้างสิ่งเกินจำเป็นที่ทำให้ไฟล์ช้า หรือเสียหายได้ในคลิกเดียว
เหมาะสำหรับผู้ใช้ Excel ที่ต้องการควบคุมคุณภาพไฟล์อย่างมืออาชีพ
ทดลองใช้ Add-in
snasui.com ยินดีต้อนรับ 
สมาชิกท่านใดที่ยังไม่ได้ระบุ Version ของ Excel ที่ใช้งานจริง สามารถทำตาม Link นี้เพื่อจะได้รับคำตอบที่ตรงกับ Version ของท่านครับ 
ระบุ Version ของ Excel 
โปรดทราบ สมัครสมาชิก
Login ผ่าน Facebook Reset รหัสผ่าน ติดต่อผู้ดูแลระบบ ตั้งค่าส่วนตัว วิธีการตั้งและตอบกระทู้ จัดรูปแบบตัวอักษร กำหนดขนาดตัวอักษรใน Browser
คำแสดงเจตนา[code] และปิดด้วย [/code] ตัวอย่างเช่น [code]dim r as range[/code] เพื่อให้แตกต่างจากข้อความทั่วไป สะดวกในการอ่านและทดสอบ (คลิกเพื่อดูตัวอย่าง)
สูตรนี้ก็ไม่ได้ยากครับ สำหรับฟังก์ชั่น Value ไม่จำเป็นต้องใช้กับไฟล์นี้ เพราะว่า B1:F1 เป็น Number อยู่แล้ว จึงไม่ต้องแปลงให้เป็น Number ด้วย Function Value แต่อย่างใด สามารถเขียนใหม่เป็นตามด้านล่างต้องการให้ vlookup มองหา part no. ที่ sheet นี้แล้ว เปรียบเทียบกับ sheet process ว่าที่ sheet process part no. นี้ผ่านขบวนการอะไร บ้าง แล้วให้เอาค่ามาใส่ แต่ผมไม่เข้าใจในส่วนของสูตรที่ท่านอื่นเขียนไว้ครับ =VLOOKUP($A6,process!$A$5:$F$27,VALUE(B$1),FALSE)
ที่ mark สีส้มไว้ครับว่า ทำไมถึงไปอ้างเซล B1 แล้วถึงคืนค่า 1 มาที่ช่อง ของขบวนการได้ครับ หรือ อาจารย์พอจะแนะนำ สูตรอื่นที่จะให้ง่ายขึ้นก็ได้ครับ
อาจารย์ครับ ขอถามเป็นกรณีศึกษาน่ะครับ การแก้ไขปัญหาตามที่ถามมานั้นไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใดครับ หากฐานข้อมูลเป็น Text เราก็แปลงค่าที่ Lookup ให้เป็น Text และ หากฐานข้อมูลเป็น Number เราก็เปลี่ยนค่าที่ Lookup ให้เป็น Number ส่วนฟังก์ชั่น Iserr, Isna หรือ ฯลฯ สามารถนำมาใช้ร่วมกับ Vlookup ได้ทั้งนั้นครับ แล้วแต่ว่าเงื่อนไขการแสดงคำตอบเป็นอย่างไร รบกวนถามนิดนึงครับ ใช้ If เข้าไปตรวจสอบผลลัพธ์ที่ได้จาก Vlookup อีกทีตามตัวอย่างด้านล่างครับ
