snasui.com ยินดีต้อนรับ
ยินดีต้อนรับสู่กระดานถามตอบ Excel and VBA และอื่น ๆ ที่เป็นมิตรกับทุกท่าน มีไฟล์แนบมหาศาล ช่วยให้ท่านค้นหาและติดตามศึกษาได้โดยง่าย สมาชิกท่านใดที่ยังไม่ได้ระบุ Version ของ Excel ที่ใช้งานจริง สามารถทำตาม Link นี้เพื่อจะได้รับคำตอบที่ตรงกับ Version ของท่านครับ ระบุ Version ของ Excel
ฟอรัมถาม-ตอบปัญหาการใช้งาน MS Excel and VBA
Forum rules
ไม่อนุญาตให้ใช้ภาษาแชทในการถามและตอบปัญหา ไม่ใช้คำว่า "คับ" หรือ "อ่ะครับ" แทนคำว่า "ครับ" ไม่ใช้คำว่า "เด๋ว" แทนคำว่า "เดี๋ยว" เป็นต้น เนื่องจากเมื่อแปลเป็นภาษาต่างประเทศแล้วจะให้ความหมายผิดไปจากที่ควรจะเป็น
ห้ามถามโดยระบุชื่อผู้ตอบและต้องตั้งชื่อกระทู้ให้สื่อถึงปัญหาที่จะถาม ไม่ตั้งชื่อว่า ช่วยด้วยครับ, มีปัญหามาปรึกษาครับ เป็นต้น
กรุณาอธิบายปัญหาและระบุคำตอบที่ต้องการมาในกระทู้ด้วยเสมอถึงแม้จะอธิบายไว้ในไฟล์แนบแล้วก็ตาม ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เพื่อนสมาชิกในการค้นหาข้อมูล
กรุณาแนบไฟล์ตัวอย่างพร้อมแสดงคำตอบที่ถูกต้องมาในไฟล์ด้วยเพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจและสะดวกต่อการตอบคำถาม (ขนาดไฟล์ไม่เกิน 500Kb ขนาดภาพไม่เกิน 800*600 Pixel) ไม่แนบเป็น Link มาจากแหล่งอื่นที่อาจจะถูกลบทิ้งไปโดยต้นทางในภายหลัง นอกจากนี้ไม่ควรแนบไฟล์ที่มีข้อมูลสำคัญอันก่อให้เกิดความเสียหายกับตนเองและผู้อื่น
กรณีเป็นคำถามเกี่ยวกับ Programming เช่น VBA, VB.Net, C#, SQL ฯลฯ ต้องลองเขียนมาเองก่อนเสมอ ถามเฉพาะที่ติดปัญหา ระบุ Module, Procedure ที่ติดปัญหาให้ชัดเจน กรุณาโพสต์ Code ให้แสดงเป็น Code คือเปิดด้วย [code]
และปิดด้วย [/code]
ตัวอย่างเช่น [code]dim r as range[/code]
เพื่อให้แตกต่างจากข้อความทั่วไป สะดวกในการอ่านและทดสอบ (คลิกเพื่อดูตัวอย่าง)
กรุณาแจ้งผลการใช้งานเมื่อได้รับคำตอบว่าตรงกับความต้องการหรือไม่
aemeral
Member
Posts: 17 Joined: Sat May 28, 2016 4:27 pm
#1
Post
by aemeral » Wed Oct 16, 2019 2:37 pm
สวัสดีครับ ผมมีเรื่องบกวนอาจารย์ทุกท่านอีกรอบครับ
ผมมีชุดข้อมูลอยู่ 2 ชุด คือ Product type และ store location ตามภาพครับ
สิ่งที่ต้องการคือให้เรียงข้อมูลลงมาโดยแสดง 1 Product type ให้มี store location ครบทุกที่ตามตัวอย่างที่ยกมาให้ดูครับ
ข้อมูลจริงๆจะมีเยอะกว่านี้มากจึงอยากรบกวนขอความรู้เรื่องสูตรจากทุกท่านครับ
ขอบคุณมากครับ
Excel 16 Oct 19.JPG
You do not have the required permissions to view the files attached to this post.
Bo_ry
Gold
Posts: 1245 Joined: Sun Aug 12, 2018 12:11 am
Excel Ver: MS 365
Contact:
#2
Post
by Bo_ry » Wed Oct 16, 2019 2:59 pm
H3
=INDEX($A$3:$A$200,CEILING(ROWS(H$3:H3)/COUNTA($C$3:$C$200),1))&""
I3
=IF(K3="","",INDEX($C$3:$C$200,MOD(ROWS(I$3:I3)-1,COUNTA($C$3:$C$200))+1))
puriwutpokin
Guru
Posts: 3792 Joined: Fri Jan 04, 2013 9:49 pm
Location: Bangkok
Excel Ver: MS.365
#3
Post
by puriwutpokin » Wed Oct 16, 2019 3:21 pm
อีกตัวอย่างครับ
H3=T(INDEX(A$3:A$100,INT((ROWS(H$3:H3)-1)/COUNTA(A$3:A100))+1))
I3=IF(N3="","",INDEX(C$3:C$100,MOD((ROWS(I$3:I3)-1),COUNTA(A$3:A$100))+1))
aemeral
Member
Posts: 17 Joined: Sat May 28, 2016 4:27 pm
#4
Post
by aemeral » Wed Oct 16, 2019 3:31 pm
สวัสดีครับ คุณ Bo_ry และ คุณ puriwutpokin
สูตรที่ให้มาทั้งสองท่านใช้งานได้เป็นอย่างดีครับ เพียงแต่ ต้องเลื่อนเซลของสูตร I3 จาก K3 เป็น H3 ของคุณ Bo_ry และ เซล I3 จาก N3เป็น H3 ของคุณ puriwutpokin เช่นกันครับ
ไม่แน่ใจว่าทำไมสูตรที่ทั้งสองท่านให้มา ถึงมีการเลื่อนของช่องที่ควรเป็น H3 ครับ ผมลองเช็คดูไฟล์ต้นฉบับที่ผมแนบไว้แล้วก็พบว่าไม่มีการเลื่อนของช่องแต่อย่างใด ยังไงถ้ามีเหตุผลอื่นๆนอกเหนือจากการบังเอิญพิมผิด ผมรบกวนขอความรู้เพิ่มเติมด้วยครับ
ขอบคุณทั้งสองท่านมากๆครับ
puriwutpokin
Guru
Posts: 3792 Joined: Fri Jan 04, 2013 9:49 pm
Location: Bangkok
Excel Ver: MS.365
#5
Post
by puriwutpokin » Wed Oct 16, 2019 5:52 pm
puriwutpokin wrote: Wed Oct 16, 2019 3:21 pm
อีกตัวอย่างครับ
H3=T(INDEX(A$3:A$100,INT((ROWS(H$3:H3)-1)/COUNTA(A$3:A100))+1))
I3=IF(
H3 ="","",INDEX(C$3:C$100,MOD((ROWS(I$3:I3)-1),COUNTA(A$3:A$100))+1))
แก้ไขครับเป็นสีแดงถูกต้องครับ ช่างที่สังเกตได้ครับ
PayomKanboon
Member
Posts: 84 Joined: Wed Mar 14, 2012 9:12 am
#6
Post
by PayomKanboon » Wed Oct 16, 2019 7:23 pm
อีกสูตรครับ
็
H3 =OFFSET($A$2,-INT(-ROWS($H$3:$H3)/5),0,1)
I3 =OFFSET($C$2,MOD(ROWS($I$3:I3)-1,5)+1,0,1)