
จากสูตร =INDEX($M$33:$M$90,MATCH(1,IF($K$33:$K$90=B6,IF(D6<=$L$33:$L$90,1)),0))
หมายถึง จากช่วง $M$33:$M$90 ให้นำลำดับที่เป็นผลลัพธ์ของ MATCH(1,IF($K$33:$K$90=B6,IF(D6<=$L$33:$L$90,1)),0) มาแสดง หากผลลัพธ์ได้เป็น 10 หมายถึง จากช่วง $M$33:$M$90 ให้นำลำดับที่ 10 มาแสดง เช่นนี้เป็นต้น
จากสูตร MATCH(1,IF($K$33:$K$90=B6,IF(D6<=$L$33:$L$90,1)),0)
หมายถึง ให้หาเลข 1 ว่าอยู่ในลำดับที่เท่าไรของช่วงข้อมูลจากสูตร IF($K$33:$K$90=B6,IF(D6<=$L$33:$L$90,1)) หากเจอในลำดับที่ 8 จะแสดงค่าเป็นเลข 8 หากไม่เจอจะแสดง #N/A
จากสูตร IF($K$33:$K$90=B6,IF(D6<=$L$33:$L$90,1))
หมายถึง หาก $K$33:$K$90=B6 เป็นจริง ให้แสดงผลลัพธ์ของ IF(D6<=$L$33:$L$90,1) หากไม่เป็นจริงให้แสดงผลลัพธ์เป็น False
จากสูตร IF(D6<=$L$33:$L$90,1)
หมายถึง หาก D6<=$L$33:$L$90 เป็นจริง ให้แสดงผลลัพธ์เป็น 1 หากไม่เป็นจริงให้แสดงค่า False
สำหรับการแทนค่าสูตรให้แทนค่าจากคำอธิบายด้านล่างขึ้นด้านบน ส่วนการแกะสูตร วิธีหนึ่งคือ ให้คลุมค่า หรือ ช่วงเซลล์ในสูตรแล้วกดแป้น F9 เพื่อดูผลลัพธ์ หากต้องการยกเลิกให้กดแป้น Ctrl+Z ครับ