
ไฟล์ที่แนบมานั้นสามารถเปิดดูได้ ผมจึงลบโพสต์ล่าสุดทิ้งไปครับ
เราสามารถปรับสูตรที่ R6 เป็น
=INDEX(Sheet1!$D$5:$D$477,SMALL(IF($A6=Sheet1!$B$5:$B$477,IF(1-ISNUMBER(MATCH(Sheet1!$D$5:$D$477,$F6:$Q6,0)),ROW(Sheet1!$B$5:$B$477)-ROW(Sheet1!$B$5)+1)),
COLUMNS($R6:R6)))
Ctrl+Shift+Enter > Copy ไปด้านขวาและลงด้านล่าง
itsadaw. wrote:ถ้าสูตรในช่องR สูตรแสดงผลเป็น #Num นั้นถูกต้องแล้วนะครับ ?
สูตรตามด้านบน กรณีไม่มีค่าตามเงื่อนไขจะแสดงค่าผิดพลาดเป็น #Num! ครับ
กรณีไม่ต้องการแสดงค่าผิดพลาด #Num! สามารถปรับสูตรที่ R6 เป็น
=IF(SUM(IF($A6=Sheet1!$B$5:$B$477,IF(1-ISNUMBER(MATCH(Sheet1!$D$5:$D$477,$F6:$Q6,0)),1)))<COLUMNS($R6:R6),"",INDEX(Sheet1!$D$5:$D$477,SMALL(IF($A6=Sheet1!$B$5:$B$477,IF(1-ISNUMBER(MATCH(Sheet1!$D$5:$D$477,$F6:$Q6,0)),ROW(Sheet1!$B$5:$B$477)-ROW(Sheet1!$B$5)+1)),COLUMNS($R6:R6))))
Ctrl+Shift+Enter > Copy ไปทางขวาและลงด้านล่าง
และหากต้องการให้ค่าที่ต้องการอยู่ในเซลล์เดียวกันค่อยนำมาเชื่อมกันทีหลังได้ครับ