Excel Forum

ต้องการจัดรูปแบบตัวเลขใน Mail merge ให้เหมือนกับในตารางข้อมูลใน Excel

ข้อมูลใน Excel จะเป็นเลขบัตรประชาชน ที่พิมพ์ตัวเลขลงไปอย่างเดียว จากนั้นจึงจัดรูปแบบเซลล์แบบ custuom ให้มีรูปแบบ 0-0000-00000-00-0 แต่พอดึงมาทำใน Mail merge ด้วยโปรแกรม Word รูปแบบที่ออกมาไม่มี - (ขีดกลาง) แสดงขึ้นมา

จะต ...

puriwutpokin wrote: Thu Oct 28, 2021 12:03 pm H2=SUMIFS($C$2:$C$3000,$B$2:$B$3000,$G2,$A$2:$A$3000,H$1) Copy Right And Down

ขอบคุณครับ

ขอคำแนะนำการดึงข้อมูล จำนวน (ชิ้น)
จากตารางซ้ายมือ มาลงในตารางขวามือ
ตามรหัสสินค้าและวันที่ที่ระบุ

ขอบคุณครับ

logic wrote: Mon Aug 09, 2021 3:09 pm ลองแบบนี้ครับ

็H5 =LOOKUP(2,1/((E3:E74=H2)*(C3:C74=H3)),B3:B74)

สูตรนี้ ใช้ได้แล้วครับ
ขอบคุณครับ

tigerwit wrote: Mon Aug 09, 2021 1:11 pm Concep งานคล้าย ๆ ที่ผมทำ
ลองแกะสูตรจากไฟล์ที่แนบมา
ไปประยุกต์ใช้ดูครับ

ผมลองดูจากไฟล์ที่แนบมา
ยังไม่ใช่แบบที่ผมตั้งคำถามไปครับ
เพราะเงื่อนไขไม่เหมือนกัน

แต่ถ้าเป็นแบบ 2 คอลัมน์ที่ให้ดูตัวอย่าง
ปกติผมจะใช้ Vlookup + choose เพื่อให้ Vlookup จากขวาไปซ้ายครับ

ต้องการให้แสดงรหัสวิชา ตามเงื่อนไขที่กำหนด

เมื่อเปลี่ยนระดับชั้น (H2) และรายวิชา (H3)
H5 ต้องแสดงผลลัพธ์ รหัสวิชา ตามเงื่อนไข

ขออนุญาตถามเพิ่มเติมว่า ถ้านำสูตรนี้ไปใช้กับ google sheet จะใช้ได้หรือไม่ครับ หรือต้องปรับสูตรอย่างไรไหมครับ เพราะลองแล้วไม่ได้นะครับ

puriwutpokin wrote: Thu May 06, 2021 9:39 pm นำสูตรนี้ไปใส่ใน Validation Drop Down List ครับ
=OFFSET(I$2,MATCH(A3,H$3:H$26,),,COUNTIF(H$3:H$26,A3))

ใช้ได้แล้วครับ
ขอบคุณครับ

อยากสร้าง Dropdown List
โดยที่เมื่อเลือกรายการในคอลัมน์ A (A3)
จากนั้นคอลัมน์ B (ฺB3) ให้เป็น Dropdown list
แสดงเฉพาะรายการสินค้าที่มีเฉพาะจังหวัดที่เลือกนั้น ๆ
เช่น A3 เลือก กำแพงเพชร
B3 จะต้องเป็น Dropdown list
ให้เลือกได้เฉพาะรายการ I3 ถึง I7 เท่านั้น

snasui wrote: Sat Mar 20, 2021 10:17 pm ตัวอย่างสูตรครับ

=LOOKUP(2,1/(A2:A11=G2)/(B2:B11=G3),C2:C11)

ขอบคุณครับ

snasui wrote: Sat Mar 20, 2021 10:08 pm ตัวอย่างสูตรครับ

=COUNTIFS(A2:A11,G2,B2:B11,G3)

ต้องขอโทษด้วยครับที่คำถามไม่ชัดเจน

ต้องการให้ผลลัพธ์แสดงชื่อรายการครับ
เช่น พ.ศ. 2561 จังหวัดเชียงใหม่ ผลลัพธ์จะต้องเป็น "ปากกา" ครับ

ขอบคุณครับ ใช้ได้แล้วครับ

ขอสอบถามเพิ่มเติม
หากเราเป็นคอลัมน์ "จำนวน" เป็น "รายการ" สินค้านะครับ
จะต้องแก้ไขสูตรอย่างไรครรับ

ค้นหาจำนวน ตามปีพ.ศ.และจังหวัดที่ต้องการ

อ่านแล้วยังไม่เข้าใจ
ขอคำอธิบายหรือทำตัวอย่างผลลัพธ์ที่ต้องการให้ดูด้วยได้ไหมครับ

อีกตัวอย่างหนึ่ง

C2 พิมพ์ =IF(COUNTIF(B$2:B2,B2)>1,"",MAX($C$1:C1)+1)

ช่วงนี้กำลังเป็นกระแสเกี่ยวกับการเสียค่าไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น
จึงพยายามใช้ excel มาลองคำนวณ
พอคิดไป เริ่มงง และสับสนกับวิธีคิดตนเอง

จึงอยากทราบวิธีคิดค่าไฟฟ้าแบบกว้างหน้านี้
สำหรับการบันทึกในช่อง I4

เดิม J7 =IFERROR(INDEX(B:B,AGGREGATE(15,6,ROW($7:$18)/($I$3=$B$7:$B$18),ROW(1:1))),"")

แก้ไขเป็น =IFERROR(INDEX(B:B,AGGREGATE(15,6,ROW($7:$30)/($I$3=$B$7:$B$30),ROW(1:1))),"")

คือการเปลี่ยน row 18 ให้เป็น 30 หรือให้เท่ากับจำนวนแถวของข้อมูล

norkaz wrote: Wed Mar 04, 2020 8:35 pm ถ้าไม่มี ฟังก์ชั่น Aggregate
J7
=IFERROR(INDEX(B:B,SMALL(IF($I$3=$B$7:$B$18,ROW($7:$18)),ROW(1:1))),"")

Ctrl + Shift -> Enter
Copy ไปขวาและลงล่าง

ถ้าไม่มี ฟังก์ชั่น Aggregate
และไม่ใช้ array

พอจะมีวิธีอื่นนอกจาก 2 อย่างนี้ไหมครับ

ลองทำตามขั้นตอนนี้ดูนะครับ

ขอบคุณทั้ง 2 ท่านครับ
ได้ผลลัพธ์ ตามที่ต้องการเลย