:D snasui.com ยินดีต้อนรับ :D
ยินดีต้อนรับสู่กระดานถามตอบ Excel and VBA และอื่น ๆ ที่เป็นมิตรกับทุกท่าน มีไฟล์แนบมหาศาล ช่วยให้ท่านค้นหาและติดตามศึกษาได้โดยง่าย :thup: สมาชิกท่านใดที่ยังไม่ได้ระบุ Version ของ Excel ที่ใช้งานจริง สามารถทำตาม Link นี้เพื่อจะได้รับคำตอบที่ตรงกับ Version ของท่านครับ :arrow: ระบุ Version ของ Excel
:!: โปรดทราบ :!:
  1. กรุณาอ่านกฎการใช้บอร์ด (Forum rules) ในตำแหน่งด้านบนของแต่ละบอร์ด
  2. การสมัครสมาชิก การ Login การกู้คืนรหัสผ่าน
    1. สมัครสมาชิกดูขั้นตอนได้ที่ :arrow: สมัครสมาชิก
    2. Login เข้าระบบโดยคลิกปุ่ม Login ตรงมุมขวาบนของหน้านี้ :roll:
    3. การ Login ผ่าน Facebook ดูวิธีที่ :arrow: Login ผ่าน Facebook
    4. ลืมรหัสผ่านสามารถรับรหัสใหม่ได้ที่ :arrow: Reset รหัสผ่าน
  3. มีปัญหาการใช้งาน แจ้งผู้ดูแลระบบได้ที่ :arrow: ติดต่อผู้ดูแลระบบ
  4. กำหนดการตั้งค่าส่วนตัว เช่นตั้งค่าภาษาเป็นไทยหรืออังกฤษดูได้ที่ :arrow: ตั้งค่าส่วนตัว
  5. การตั้งและตอบกระทู้ดูได้ที่ :arrow: วิธีการตั้งและตอบกระทู้
  6. การจัดรูปแบบตัวอักษรด้วย bbcode ในช่องแสดงความคิดเห็นดูได้ที่ :arrow: จัดรูปแบบตัวอักษร
  7. กำหนดขนาดตัวอักษรใน Browser ดูได้ที่ :arrow: กำหนดขนาดตัวอักษรใน Browser

ต้องการแยก Part No. ออกจากข้อความแบบมีเงื่อนไข

ฟอรัมถาม-ตอบปัญหาการใช้งาน MS Excel and VBA
Forum rules
  1. ไม่อนุญาตให้ใช้ภาษาแชทในการถามและตอบปัญหา ไม่ใช้คำว่า "คับ" หรือ "อ่ะครับ" แทนคำว่า "ครับ" ไม่ใช้คำว่า "เด๋ว" แทนคำว่า "เดี๋ยว" เป็นต้น เนื่องจากเมื่อแปลเป็นภาษาต่างประเทศแล้วจะให้ความหมายผิดไปจากที่ควรจะเป็น
  2. ห้ามถามโดยระบุชื่อผู้ตอบและต้องตั้งชื่อกระทู้ให้สื่อถึงปัญหาที่จะถาม ไม่ตั้งชื่อว่า ช่วยด้วยครับ, มีปัญหามาปรึกษาครับ เป็นต้น
  3. กรุณาอธิบายปัญหาและระบุคำตอบที่ต้องการมาในกระทู้ด้วยเสมอถึงแม้จะอธิบายไว้ในไฟล์แนบแล้วก็ตาม ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เพื่อนสมาชิกในการค้นหาข้อมูล
  4. กรุณาแนบไฟล์ตัวอย่างพร้อมแสดงคำตอบที่ถูกต้องมาในไฟล์ด้วยเพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจและสะดวกต่อการตอบคำถาม (ขนาดไฟล์ไม่เกิน 500Kb ขนาดภาพไม่เกิน 800*600 Pixel) ไม่แนบเป็น Link มาจากแหล่งอื่นที่อาจจะถูกลบทิ้งไปโดยต้นทางในภายหลัง นอกจากนี้ไม่ควรแนบไฟล์ที่มีข้อมูลสำคัญอันก่อให้เกิดความเสียหายกับตนเองและผู้อื่น
  5. กรณีเป็นคำถามเกี่ยวกับ Programming เช่น VBA, VB.Net, C#, SQL ฯลฯ ต้องลองเขียนมาเองก่อนเสมอ ถามเฉพาะที่ติดปัญหา ระบุ Module, Procedure ที่ติดปัญหาให้ชัดเจน กรุณาโพสต์ Code ให้แสดงเป็น Code คือเปิดด้วย [code] และปิดด้วย [/code] ตัวอย่างเช่น [code]dim r as range[/code] เพื่อให้แตกต่างจากข้อความทั่วไป สะดวกในการอ่านและทดสอบ (คลิกเพื่อดูตัวอย่าง)
  6. กรุณาแจ้งผลการใช้งานเมื่อได้รับคำตอบว่าตรงกับความต้องการหรือไม่
scars13
Member
Member
Posts: 60
Joined: Mon Jan 22, 2018 1:35 pm

ต้องการแยก Part No. ออกจากข้อความแบบมีเงื่อนไข

#1

Post by scars13 »

เนื่องจากงานวิเคราะห์ ต้องนำ part number จากข้อความที่พนักงานเขียน comment manual ออกมาอย่างเช่น
======================================================

W/P รอผ้า MAIN P/NO.624775300B => ต้องการ 624775300B
St30 รอผ้า No635638200A 02.13-02.33 => ต้องการ 635638200A
w/p 628453700C => ต้องการ 628453700C
======================================================

แต่ผมมีเงื่อนไขคือ
1. part numer ผมจะขึ้นต้นด้วย ไม่ 6 ก็ 5 ==> ตรงนี้พอผูกสูตรได้
2. บางข้อความถ้าใส่คำว่า St60 รอผ้า No635638200A แบบนี้สูตรผมยังไปไม่ถึงครับ เพราะมันจะไปเจอ St60 ก่อน
ต้องแก้มือเองทุกครั้งครับ

สูตรที่ผมทำมันจะ หา part number ที่ขึ้นต้นด้วย 6 5 ได้ครับแต่ยังติดที่เงื่อนไข 2


รบกวน อาจารย์์และผู้รู้ทุกท่าน ช่วยแนะนำด้วยครับ
You do not have the required permissions to view the files attached to this post.
User avatar
parakorn
Gold
Gold
Posts: 1223
Joined: Thu Mar 14, 2013 9:41 am
Location: Central Chaengwattana[Tops]
Excel Ver: 365
Contact:

Re: ต้องการแยก Part No. ออกจากข้อความแบบมีเงื่อนไข

#2

Post by parakorn »

H3 =ISNUMBER(MID(B3,IFERROR(SEARCH("6",B3,SEARCH("รอผ้า",B3)),),9)+0) Enter+Copy ลงด้านล่าง
I3 =IF(ISNUMBER(MID(B3,IFERROR(SEARCH("6",B3,SEARCH("รอผ้า",B3)),),9)+0),MID(B3,IFERROR(SEARCH("6",B3,SEARCH("รอผ้า",B3)),),9),"") Enter+Copy ลงด้านล่าง
J3 =IF(NOT(ISNUMBER(MID(B3,IFERROR(SEARCH("6",B3,SEARCH("รอผ้า",B3)),),9)+0)),MID(B3,IFERROR(SEARCH("5",B3,SEARCH("รอผ้า",B3)),),9),"") Enter+Copy ลงด้านล่าง
User avatar
DhitiBank
Gold
Gold
Posts: 1676
Joined: Mon Oct 15, 2012 12:07 am

Re: ต้องการแยก Part No. ออกจากข้อความแบบมีเงื่อนไข

#3

Post by DhitiBank »

แถมครับ

C3

=TRIM(MID(SUBSTITUTE(RIGHT(B3,LEN(B3)-FIND("รอ",B3))," ",REPT(" ",LEN(B3))),MIN(FIND({5,6},SUBSTITUTE(RIGHT(B3,LEN(B3)-FIND("รอ",B3))," ",REPT(" ",LEN(B3)))&"56")),LEN(B3)))

Enter > คัดลอกลงล่างครับ
scars13
Member
Member
Posts: 60
Joined: Mon Jan 22, 2018 1:35 pm

Re: ต้องการแยก Part No. ออกจากข้อความแบบมีเงื่อนไข

#4

Post by scars13 »

ขออภัยคับ ข้อมูลที่นำมาให้ น้อยไปเลยไม่ครอบคลุมปัญหาที่เกิดขึ้นครับ

เพราะบางที หน้างานจะ ไม่พิมพ์ว่า รอผ้า อย่างเช่น

รอผ้า 6xxxxxxx
W/P 6xxxxxxxx
St.10 รอผ้า ุxxxxx เวลา 6.00 - 6.20
st 60 รอผ้า ุxxxxx เวลา 6.00 - 6.20

ประมาณนี้ที่เจอหน้างานครับ
===============================

ผมแนบไฟลล์มาให้อีกครั้ง เพิ่มเติมในส่วนของ Comment
You do not have the required permissions to view the files attached to this post.
User avatar
snasui
Site Admin
Site Admin
Posts: 30752
Joined: Sun Jan 24, 2010 12:33 pm
Location: Songkhla, Thailand
Excel Ver: 2010, 365
Contact:

Re: ต้องการแยก Part No. ออกจากข้อความแบบมีเงื่อนไข

#5

Post by snasui »

:D ตัวอย่างการปรับสูตรตามด้านล่างซึ่งได้กระจายออกเป็นคอลัมน์เพื่อสะดวกต่อการทำความเข้าใจครับ
  1. แทรกคอลัมน์ C:F ข้อมูลเดิมจะย้ายไปเริ่มที่คอลัมน์ G
  2. เซลล์ C2:F2 คีย์หัวคอลัมน์ Result, Help1, Slist, SeparateList ตามลำดับ
  3. เซลล์ F3:F8 คีย์ตัวแบ่ง ผ้า, /N, /P, NO, NO., /N. ตามลำดับ
  4. ที่ E3 คีย์
    =LOOKUP(2,1/(ISNUMBER(SEARCH($F$3:$F$8,B3))),$F$3:$F$8)
    Enter > Copy ลงด้านล่าง
  5. ที่ D3 คีย์
    =TRIM(MID(B3,SEARCH(E3,B3)+LEN(E3),LEN(B3)))
    Enter > Copy ลงด้านล่าง
  6. ที่ C3 คีย์
    =LEFT(D3,FIND(" ",D3&" ")-1)
    Enter > Copy ลงด้านล่าง
scars13
Member
Member
Posts: 60
Joined: Mon Jan 22, 2018 1:35 pm

Re: ต้องการแยก Part No. ออกจากข้อความแบบมีเงื่อนไข

#6

Post by scars13 »

snasui wrote: Tue Jun 19, 2018 7:45 pm :D ตัวอย่างการปรับสูตรตามด้านล่างซึ่งได้กระจายออกเป็นคอลัมน์เพื่อสะดวกต่อการทำความเข้าใจครับ
  1. แทรกคอลัมน์ C:F ข้อมูลเดิมจะย้ายไปเริ่มที่คอลัมน์ G
  2. เซลล์ C2:F2 คีย์หัวคอลัมน์ Result, Help1, Slist, SeparateList ตามลำดับ
  3. เซลล์ F3:F8 คีย์ตัวแบ่ง ผ้า, /N, /P, NO, NO., /N. ตามลำดับ
  4. ที่ E3 คีย์
    =LOOKUP(2,1/(ISNUMBER(SEARCH($F$3:$F$8,B3))),$F$3:$F$8)
    Enter > Copy ลงด้านล่าง
  5. ที่ D3 คีย์
    =TRIM(MID(B3,SEARCH(E3,B3)+LEN(E3),LEN(B3)))
    Enter > Copy ลงด้านล่าง
  6. ที่ C3 คีย์
    =LEFT(D3,FIND(" ",D3&" ")-1)
    Enter > Copy ลงด้านล่าง
=====================================================

ขอบคุณครับอาจารย์ สูตรกระชับขึ้นมากๆเลย
แต่มีอยู่บางจุดทีผมสงสัย


==> เซลล์ F3:F8 คีย์ตัวแบ่ง ผ้า, /N, /P, NO, NO., /N. ตามลำดับ
ลอจิกคือ เพื่อที่จะต้องการหาว่า หน้า Part number ที่หน้างานใส่มา ส่วนใหญ่เป็นตัว อักขระ อะไรบ้างใช่มั้ยครับ

==> ที่ E3 คีย์ LOOKUP(2,1/(ISNUMBER(SEARCH($F$3:$F$8,B3))),$F$3:$F$8)
ผมงงว่า ทำไมถึงใช้ 2 แล้วก็ 1/(ISNUMBER(SEARCH($F$3:$F$8,B3)))



รบกวนช่วยแนะนำด้วย ขอบคุณครับ
User avatar
logic
Gold
Gold
Posts: 1506
Joined: Thu Mar 18, 2010 1:57 pm
Excel Ver: 365

Re: ต้องการแยก Part No. ออกจากข้อความแบบมีเงื่อนไข

#7

Post by logic »

scars13 wrote: Wed Jun 20, 2018 9:03 am ==> เซลล์ F3:F8 คีย์ตัวแบ่ง ผ้า, /N, /P, NO, NO., /N. ตามลำดับ
ลอจิกคือ เพื่อที่จะต้องการหาว่า หน้า Part number ที่หน้างานใส่มา ส่วนใหญ่เป็นตัว อักขระ อะไรบ้างใช่มั้ยครับ
ใช่แล้วครับ คีย์อะไรปนมาเราก็นำมาสร้างรายการไว้แล้วใช้ค่านั้นเป็นตัวแบ่งข้อความครับ :thup:
scars13 wrote: Wed Jun 20, 2018 9:03 am ==> ที่ E3 คีย์ LOOKUP(2,1/(ISNUMBER(SEARCH($F$3:$F$8,B3))),$F$3:$F$8)
ผมงงว่า ทำไมถึงใช้ 2 แล้วก็ 1/(ISNUMBER(SEARCH($F$3:$F$8,B3)))
อาจารย์อธิบายไว้ที่ลิงก์นี้ ลองดูครับ wordpress/last-cell-that-not-blank/
scars13
Member
Member
Posts: 60
Joined: Mon Jan 22, 2018 1:35 pm

Re: ต้องการแยก Part No. ออกจากข้อความแบบมีเงื่อนไข

#8

Post by scars13 »

ขอบคุณครับ อาจารย์
ขอบคุณครับ คุณ DhitiBank, logic, parakorn
Post Reply