Excel Add-ins ที่พัฒนาโดยคุณสันติพงศ์ ณสุย (MVP Excel 2010-2020) ด้วยภาษา C# เพื่อแก้ไขปัญหาไฟล์ใหญ่ คำนวณนาน ทำงานช้า จัดการข้อมูลต่าง ๆ ที่ทำงานประจำวันได้อย่างสะดวกรวดเร็ว สนใจคลิกไปดูได้ที่นี่ครับ => Excel Tools
snasui.com ยินดีต้อนรับ 
สมาชิกท่านใดที่ยังไม่ได้ระบุ Version ของ Excel ที่ใช้งานจริง สามารถทำตาม Link นี้เพื่อจะได้รับคำตอบที่ตรงกับ Version ของท่านครับ 
ระบุ Version ของ Excel 
โปรดทราบ สมัครสมาชิก
Login ผ่าน Facebook Reset รหัสผ่าน ติดต่อผู้ดูแลระบบ ตั้งค่าส่วนตัว วิธีการตั้งและตอบกระทู้ จัดรูปแบบตัวอักษร กำหนดขนาดตัวอักษรใน Browser[code] และปิดด้วย [/code] ตัวอย่างเช่น [code]dim r as range[/code] เพื่อให้แตกต่างจากข้อความทั่วไป สะดวกในการอ่านและทดสอบ (คลิกเพื่อดูตัวอย่าง)
รบกวนอาจารย์ ช่วยดูให้หน่อยค่ะ แยกข้อมูลมาเป็น 2 ชีทเลยครับ แล้วผมจะลองดูให้ 
ตามไฟล์แนบลองตามนี้ครับมีผลอย่างแน่นอนครับ หากไม่ตรงกัน สูตรก็จะแสดงผลเป็น #N/Aชื่อ-สกุล ในตารางข้อมูลลูกจ้างชั่วคราวกับตาราง code เว้นวรรค ระหว่างชื่อ-สกุล ไม่เท่ากัน จะมีผลต่อการค้นหาหรือไม่ค่ะ
ผมดูไฟล์แนบแล้ว ไม่สามารถทำได้ครับ เนื่องจากชื่อและสกุลในชีท Code ถูกเก็บไว้ในคอลัมน์เดียว แต่ในชีทเช็คสัญญาจ้าง ชื่อ-สกุล ถูกเก็บคนละคอลัมน์ ผมจึงไม่รู้จะแทนสูตรอย่างไรครับ
ถ้าทำเช่นนั้นได้ จะถือว่าดีมากครับ เพราะเลขบัตรประชาชนจะไม่ซ้ำกันเลยครับ แต่อย่างไรก็ควรจำลองรหัสปลอมมาน่ะครับ ไม่ควรเอาข้อมูลจริงมาโพสต์ไว้ เพื่อความปลอดภัยครับคุณ bank9597
พี่ขอแทนตัวว่าพี่ก็แล้วกันนะ หรือว่าพี่ทำข้อมูลใหม่ โดยใช้เลขบัตรประชาชนเป็นตัวเชื่อมดีไหมค่ะ แต่ว่าพี่ต้องไปทำชีตใหม่ก่อน ดีไหม ขอบคุณค่ะ
ตามไฟล์ที่แนบมาให้นั้น สามารถใช้สูตรได้ครับ แต่ต้องอ้างอิง 2 ที่ คือ ชื่อ และ สกุล เพราะชื่อแรก มีโอกาสซ้ำกับชื่ออื่น เช่น ชื่อสมชาย อาจจะมี 2 คน สูตรไม่สามารถบอกได้ว่าคนไหน เราเลยต้องอ้างสกุลไปด้วย เพราะนามสกุลจะมีโอกาสซ้ำน้อยกว่าครับ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ช่วยได้มากเลย เมื่อวานนั่งดูโพสต่างๆ ตั้งแต่ค่ำถึงเที่ยงคืน จะลองไปทำตามที่น้องบอก ไว้วันหลังจะขอรบกวนใหม่
มาช่วยเสริมเรื่องสูตรครับsnasui wrote:
การ Match ข้อมูลสองเงื่อนไขขึ้นไปสามารถ If เข้ามาช่วยแทนการเชื่อมข้อมูลเข้าด้วยกัน เพื่อประสิทธิภาพการคำนวณที่ไวขึ้น สูตรมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเนื่องจากสามารถเพิ่มเงื่อนไขเข้าไปได้ง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้ให้เลือกขอบเขตข้อมูลเท่าที่มีไม่ควรจะเผื่อเอาไว้ให้เป็นภาระในการคำนวณโดยไม่จำเป็นครับ
ยกตัวอย่างสูตรเดิม
ที่ A2 คีย์
=INDEX(code!$A$2:$A$1000,MATCH(D2&E2,code!$B$2:$B$1000&code!$C$2:$C$1000,0))
Ctrl+Shift+Enter
สามารถปรับใหม่เป็น
=INDEX(code!$A$2:$A$990,MATCH(1,IF($D2=code!$B$2:$B$990,IF($E2=code!$C$2:$C$990,1)),0))
Ctrl+Shift+Enter
ขอบคุณอาจารย์มากครับ นึกว่าจะไม่มาช่วยเสียแล้ว อิอิ 
