อยากขอความช่วยเหลือเกี่ยวกันสูตรในการทำข้อมูลจำนวนมากๆ

[narongc]

เนื่องจากจะต้องทำ ลิสรายการสินค้าซึ่งมีหมวดหมู่และรายระเอียดที่เยอะมากๆ แล้วทำเป็นรายการให้ครบตามหมวดหมู่ อยากทราบว่าจะต้องใช้สูตรยังไง แบบไหน เพื่อให้ได้รายการสินค้าตามกรุ๊ปทั้งหมดครับ
ขอบคุณครับ

[narongc]

รายระเอียดตามรูปที่แนบครับ

[snasui]

ยังไม่เข้าใจถึงสิ่งที่ต้องการครับ

กรุณาอธิบายว่าข้อมูลคือชีตไหน ผลลัพธ์ที่ต้องการคือชีตไหน มีการพิจาณาอย่างไรจึงนำไปแสดงลักษณะนั้นจะได้เข้าใจตรงกันครับ

นอกจากนี้กรุณา Update ว่าปัจจุบันใช้้ Excel Version ไหนตาม Link นี้ด้วยครับ viewtopic.php?p=103177#p103177

[narongc]

Sheet Control vale คือชีตงานที่เป็นต้นแบบและกลุ่มที่จะสร้างรายการสินค้าให้แยกย่อยออกไป
Sheet Control vale 2 คือตัวอย่างผลลัพธ์ที่อยากจะกระจายรายการสินค้าออกไปครับ

ปัจจุบันใช้ Ms Office 2010 แต่มีบางเครื่องที่ใช้เวอร์ชั่นที่สูงกว่าได้

ผลลัพธ์คือ ต้องการสร้างรายการสินค้ารายการสินค้าจากหมวดหมู่ในแต่ละช่อง ที่เป็นองค์ประกอบทั้งหมดของรายการสินค้าน่ะครับ

[narongc]

รูปแบบคือการเรียงลำดับการตั้งรายการตามกลุ่มที่แบ่งย่อยไว้แบบในรูปนี้น่ะครับ

[snasui]

จากภาพของการแบ่งกลุ่มที่ให้มา ข้อมูลในไฟล์สามารถสร้างรายการได้อย่างน้อย 2,485,192,320 รายการ ไม่สามารถนำมาลงในไฟล์ Excel ได้ครับ

[narongc]

อยากขอคำแนะนำหรือวิธีการกำหนดสูตร สำหรับการสร้างรายการจากหมวดหมู่แบบนี้ได้หรือไม่ครับ ไม่เอาผลลัพท์จากไฟล์ตัวอย่างก็ได้ครับ แต่อยากได้วิธีการและสูตรที่จะทดสอบการสร้างรายการสินค้า ตามไฟล์ตัวอย่างน่ะครับ

ขอบคุณครับ

[snasui]

เท่าที่คิดออกในการทำเช่นนั้นต้องอาศัยเขียน VBA เข้าไปช่วย สำหรับการเขียน VBA จำเป็นต้องเขียนมาเองก่อน ติดแล้วค่อยถามกันต่อครับ

[narongc]

ข้อมูลตัวอย่างที่จะนำมาทำรายการ

[snasui]

ตัวอย่างสูตรตามด้านล่างครับ

1. ที่ A9 คีย์สูตรเพื่อเป็นเซลล์ช่วย
   =COUNTA(A2:A8)
   Enter > Copy ไปด้านขวาจนถึงคอลัมน์ D
2. ที่ A10 คีย์สูตรเพื่อเป็นเซลล์ช่วย
   =PRODUCT(A9:$D9)
   Enter > Copy ไปด้านขวาจนถึงคอลัมน์ D
3. ที่ E13 คีย์สูตรเพื่อเป็นเซลล์ช่วย
   =IF(ROWS(E$13:E13)>$A$10,"",ROWS(E$13:E13))
   Enter > Copy ลงด้านล่าง
4. ที่ F13 คีย์สูตรเพื่อเป็นเซลล์ช่วย
   =IF(E13="","",INT((E13-1)/$B$10)+1)
   Enter > Copy ลงด้านล่าง
5. ที่ G13 คีย์สูตรเพื่อเป็นเซลล์ช่วย
   =IF(E13="","",MOD(((INT((E13-1)/$C$10)+1)-1),$D$10)+1)
   Enter > Copy ลงด้านล่าง
6. ที่ H13 คีย์สูตรเพื่อเป็นเซลล์ช่วย
   =IF(E13="","",MOD(E13-1,$C$9)+1)
   Enter > Copy ลงด้านล่าง
7. ที่ A13 คีย์
   =IF($E13="","",INDEX(A$2:A$8,F13))
   Enter > Copy ไปด้านขวาถึง C13 แล้ว Copy ลงด้านล่าง
8. ที่ D13 คีย์
   =IF($E13="","",INDEX(D$2:D$8,COUNTIFS(A$13:A13,A13,B13:B$13,B13,C$13:C13,C13)))
   Enter > Copy ลงด้านล่าง

[narongc]

เท่าที่คิดออกในการทำเช่นนั้นต้องอาศัยเขียน VBA เข้าไปช่วย สำหรับการเขียน VBA จำเป็นต้องเขียนมาเองก่อน ติดแล้วค่อยถามกันต่อครับ

ไม่เคยเขียนและเขียนไม่เป็นนี่สิครับ

[snasui]

ไม่เคยเขียนและเขียนไม่เป็นนี่สิครับ

ถือว่าไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่จะตอบโดยเขียน VBA ไปให้ครับ

[narongc]

ขอบพระคุณมากๆ ครับท่านอาจารย์ ตอนนี้ได้ตามที่คาดว่าจะนำไปปรับใช้ แต่อยากสอบถามเกี่ยวกับเรื่อง VBA ว่าในกรณีแบบนี้ มันมีตัวอย่างหรือสามารถไกด์ให้ดูได้มั้ยครับ อยากศึกษาและเอามาปรับใช้ หากมันทำให้ทำออกมาได้ดีแล้วสะดวกกว่าน่ะครับผม

[narongc]

ผมพยายามจะเอาไปปรับใช้กับกลุ่มข้อมูลจริง และมีจำนวนกลุ่มที่มากกว่าเดิม สรุปมันต้องมีการกำหนดสูตรเพิ่มเติมในช่องด้านข้างทางขวา เพื่อให้ครอบคลุมข้อมูลที่อ้างอิงที่ต่างไปจากตัวอย่าง เลยไปต่อไม่ได้เพราะไม่รู้จะกำหนดในส่วนที่เพิ่มเติมได้ยังไง

มันพอจะมีคำแนะนำหรือชี้นำให้ผมได้เอาไปใช้งานกะข้อมูลอื่นๆ ได้มั้ยครับ

[snasui]

สามารถไกด์ให้ดูได้มั้ยครับ

เป็นการ Loop เข้าไปในแต่ละคอลัมน์จนครบทุกคอลัมน์แล้วนำผลลัพธ์ไปวางยังเซลล์เป้าหมายครับ

เช่น

Code: Select all

for each r in [a2:a3]
   for each r1 in [b2:b15]
      for each r2 in [c2:c3]
          'Other loop
              for each r6 in [f2:f6]
                 'Code for recording range r - r6 to target cells
              next r6
          'Other loop
      next r2
   next r1
next r

ศึกษาจากที่นี่เป็นเบื้องต้นได้ครับ

1. For each ... Next
2. snasui For each ... Next รายการที่ 217

[narongc]

เจอโค้ดเข้าไปนี่จอดเลย ไปพยายามดู สมองตื้อไปเลย ไปต่อไม่ได้ แง่ววว