ปัญหาเกี่ยวกับ combo box+ graph ครับ

[kamahltew]

ตามไฟล์แนบ

ผมอยากให้กราฟ 1 และ 2 แสดงข้อมูล ตามเดือนใน combo box ครับ
ซึ่งผมมีข้อมูลมาในหน้าเดียวกันแล้ว

ผมลองพยายามแกะสูตรที่มีพี่เค้าเคยทำไว้ แต่แกะไม่ได้เลย เพราะมันมีเรียกค่าจาก Vlookup ด้วยอะครับ

[snasui]

ไม่เข้าใจครับ ช่วยยกตัวอย่างมาด้วยครับว่า เมื่อเลือกเดือนแล้วต้องการไปแสดงที่ไหน ด้วยค่าใด

[kamahltew]

ไม่เข้าใจครับ ช่วยยกตัวอย่างมาด้วยครับว่า เมื่อเลือกเดือนแล้วต้องการไปแสดงที่ไหน ด้วยค่าใด

ที่ตาราง Receive Quantity / Damage Quantity
อยากให้เอาค่า W/M, R/F,A/C ของแต่ละเดือนเปลี่ยนตาม combo box และ
มาโชว์เป็นกราฟ และ กราฟสามารถเปลี่ยนได้เมื่อเดือนจาก combo box เปลี่ยน ครับผม

[snasui]

สงสัยจะยาวครับ ค่อย ๆ ถามตอบไปแล้วกันครับ

ถามต่อครับว่า ค่า W/M, R/F,A/C เอามาจากไหนครับ

[kamahltew]

สงสัยจะยาวครับ ค่อย ๆ ถามตอบไปแล้วกันครับ

ถามต่อครับว่า ค่า W/M, R/F,A/C เอามาจากไหนครับ

อ๋อ มันเป็น record ที่ผมจะต้อง คีย์เข้าไปเองครับ

= October =
W/M = washing machine
R/F = Refrigerator
A/C = Air condition

เช่นเดือน ต.ค.สินค้าทั้ง3ชนิดนี้จะมียอดการรับเข้ามาเท่าไร

เป็นยอดการรับเข้ามาจากไลน์การผลิต / ยอดของที่ได้รับความเสียหาย ครับ

[snasui]

ผมขออธิบายวิธีการทำงานลักษณะนี้ก่อนแล้วกันครับ

สิ่งที่ต้องเตรียมและที่เกี่ยวข้องกับการทำงานนี้คือ

1. Database <== ซึ่งผมถามว่าข้อมูลนี้นำมาจากไหน คำตอบคือ คีย์เข้ามาเอง แต่สิ่งที่ต้องการทราบคือ ข้อมูลที่บอกว่าคีย์เข้ามาเองนั้น อยู่ในพื้นที่ใด
2. พื้นที่แสดงข้อมูลเป็นการนำข้อมูลจากข้อ 1 มาแสดงตามที่เลือกใน ComboBox
3. กราฟ ซึ่งจะนำข้อมูลจากข้อ 2 มาแสดงในกราฟ

[kamahltew]

ผมขออธิบายวิธีการทำงานลักษณะนี้ก่อนแล้วกันครับ

สิ่งที่ต้องเตรียมและที่เกี่ยวข้องกับการทำงานนี้คือ

1. Database <== ซึ่งผมถามว่าข้อมูลนี้นำมาจากไหน คำตอบคือ คีย์เข้ามาเอง แต่สิ่งที่ต้องการทราบคือ ข้อมูลที่บอกว่าคีย์เข้ามาเองนั้น อยู่ในพื้นที่ใด
2. พื้นที่แสดงข้อมูลเป็นการนำข้อมูลจากข้อ 1 มาแสดงตามที่เลือกใน ComboBox
3. กราฟ ซึ่งจะนำข้อมูลจากข้อ 2 มาแสดงในกราฟ

ผมลองแนบไฟล์มาให้ใหม่ครับ
ใส่ตัวเลขเข้าไปให้ด้วย 3เดือนก่อนครับ
มีการโยงข้อมูลด้วย

[snasui]

ดูตัวอย่างตามไฟล์แนบ

การสังเกตว่ากำหนด ComboBox อย่างไรให้คลิกขวาที่ ComboBox > Format Control > สังเกตการกำหนดค่า และสังเกตพื้นที่สีเหลืองซึ่งใช้ทำกราฟ ได้นำฟังก์ชั่น Index, Match มาช่วยหาข้อมูลตามที่เลือกใน ComboBox

[kamahltew]

ดูตัวอย่างตามไฟล์แนบ

การสังเกตว่ากำหนด ComboBox อย่างไรให้คลิกขวาที่ ComboBox > Format Control > สังเกตการกำหนดค่า และสังเกตพื้นที่สีเหลืองซึ่งใช้ทำกราฟ ได้นำฟังก์ชั่น Index, Match มาช่วยหาข้อมูลตามที่เลือกใน ComboBox

เดี๋ยวผมขอลองศึกษาสูตรที่พี่คนควนให้มานะครับ

เดี๋ยวไม่เข้าใจอย่างไรจะมารายงานผลให้ทราบครับ

ลองแล้วครับผล

เมื่อเปลี่ยนจาก October > November มัน error พร้อม recover file อะครับ ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร

[snasui]

ลองแล้วครับผล

เมื่อเปลี่ยนจาก October > November มัน error พร้อม recover file อะครับ ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร

ผมทดสอบแล้วไม่ติดปัญหาใดครับ สามารถเลือกได้ตามปกติ และรู้สึกว่าจะติดอกติดใจกับการคำนวณเป็นวงกลมอยู่เรื่อย ๆ นะครับ สังเกตว่า E8 มีการคำนวณเป็นวงกลม หากไม่ได้ตั้งให้ให้คำนวณเป็นวงกลมช่วย Clear ให้หมดครับ

[kamahltew]

ถามเพิ่มครับ
ถ้าทำใน Data > Validation > List > ต้องกรอก Index+match ในช่อง Source ใช่ไหมครับ

[snasui]

ถามด้วยครับ ต้องการทำอะไรครับ

[kamahltew]

ถามด้วยครับ ต้องการทำอะไรครับ

คือว่าถ้าผมไม่ใช้ combo box แต่เปลี่ยนเป็น data > validation > list แทน

[snasui]

การทำเช่นนั้นกำหนด Validation ที่ Allow: เป็น List แล้วช่อง Source: ให้ไปลากคลุมช่วงข้อมูลที่ต้องการให้แสดงใน Validation ครับ

[kamahltew]

ขอถามครับ
ทำไมต้องเพิ่มค่าใน column O,P,Q ด้วยครับ
ถ้าไม่เพิ่มแต่ทำจากตารางเลยได้ไหม
มันงงๆ

[snasui]

คำตอบคือเพื่อให้สะดวกสามารถนำไปใช้ได้โดยง่ายครับ

ถ้าไม่ทำได้ไหม คำตอบคือ ได้ครับ แต่คงต้องพึ่ง VBA เข้ามาระบุตำแหน่งช่วงเซลล์ที่นำไปทำกราฟ

ถ้างงก็ระบายเป็นสีพื้นไว้ครับ หรือถ้าต้องการทำเป็น VBA ก็ทำมาก่อนครับติดตรงไหนก็ค่อยมาดูกันต่อครับ

[kamahltew]

จะบอกว่าผมพยายามแล้วอะครับ
มันยากว่าใช้ if ซึ่งแปลความหมายง่ายกว่า

รบกวนช่วยแปลสูตรแบบเป็นคำอ่านสักตัวอย่างได้ไหมครับ เพราะจะได้สามารถนำไปประยุกต์ได้ด้วย
ไม่งั้น นำไปใช้เองไม่ได้แน่เลย

ยกตัวอย่างใ่นงานของผมที่พี่แนะนำมานะครับ
=INDEX(Y_Value_2,MATCH(P3,$H$3:$H$5,0),MATCH(Q$2,$I$2:$N$2,0))

และอีกข้อถามว่าอันนี้ไม่เห็นเหมือนรูปแบบ สูตร Index เลยครับ
=INDEX(O16:O21,O2)

[snasui]

จะบอกว่าผมพยายามแล้วอะครับ
มันยากว่าใช้ if ซึ่งแปลความหมายง่ายกว่า

ฟังก์ชั่น If ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อใช้ในทุกสถานการณ์ครับ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีฟังก์ชั่นอีกจำนวนมากเพื่อรองรับการใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ

รบกวนช่วยแปลสูตรแบบเป็นคำอ่านสักตัวอย่างได้ไหมครับ เพราะจะได้สามารถนำไปประยุกต์ได้ด้วย
ไม่งั้น นำไปใช้เองไม่ได้แน่เลย

ยกตัวอย่างในงานของผมที่พี่แนะนำมานะครับ
=INDEX(Y_Value_2,MATCH(P3,$H$3:$H$5,0),MATCH(Q$2,$I$2:$N$2,0))

ความหมายของสูตรคือจากตาราง Y_Value_2 ให้นำค่าในบรรทัดที่เป็นผลลัพธ์ของสูตร MATCH(P3,$H$3:$H$5,0) และในคอลัมน์ที่เป็นผลลัพธ์ของสูตร MATCH(Q$2,$I$2:$N$2,0) มาแสดง เป็นการมองที่จุดตัดของบรรทัดและคอลัมน์

และอีกข้อถามว่าอันนี้ไม่เห็นเหมือนรูปแบบ สูตร Index เลยครับ
=INDEX(O16:O21,O2)

สูตรนี้เป็นการใช้ Index แบบย่อส่วน โดยละส่วนที่เป็นคอลัมน์เอาไว้ ความหมายคือ จากช่วงข้อมูล O16:O21 ให้นำลำดับที่เป็นค่าในเซลล์ O2 มาแสดง