Excel Forum

ลองดูครับ

Workbooks(fso.GetFileName(nameSvFile)).Worksheets("Sheet1").Names("MaiAge").Value = ToMaiAge

ลองแบบนี้ครับ

C2 =DATE(YEAR(A2),MONTH(A2)-B2,DAY(A2)) คัดลอกสูตรลง

ลองกรองข้อมูลแล้วคัดลอกใส่อีกชีตเป็นตัวอย่างเพิ่มมาหน่อยครับ

ลองดูครับ

B4 =SUMIFS(Sheet1!B$2:B$2060,Sheet1!$G$2:$G$2060,$A4)/SUM(Sheet1!$B$2:$F$2060) คัดลอกไปขวาและล่าง

ความหมาย Choose ดูในคลิปอาจารย์ได้เลยครับ

Xcelvba wrote: ↑Fri Apr 08, 2022 2:03 pm สูตรมีค่า error บางตัวครับ (ตัวอย่าง row ที่53-62)

แก้เป็นแบบนี้ดูครับ

D1 =IF(ROW(A1)=MATCH(A1,$A$1:$A$3136,0),MIN(COUNTIFS($A$1:$A$3136,A1),SUMPRODUCT(--($A$1:$A$3136=$A1),--($C$2:$C$3137-$C$1:$C$3136>=1/24/60))+1+(LOOKUP(9.99999999999999E+307,$A$1:$A$3136)=A1)),"")

ตอบโพสต์ที่ถาม -- และความหมาย $C$2:$C$3137-$C$1:$C$3136 คือเอา $C$2:$C$3137 ตั้งแล้วลบออกด้วย $C$1:$C$3136 สังเกตว่ามันเป็นคนละช่วง พูดง่าย ๆ คือเอาเซลล์ล่างลบเซลล์บน 1/24/60 คือ 1 นาที ที่มาคือ 1 วันมี 24 ชม., 1 ชม. มี 60 นาที อักษร -- ก็คือเครื่องหมาย - เขียนติดกัน 2 อัน อ่านที่อาจารย์อธิบายดีกว่า...

อันนี้แบบ ใช้ IF ครับ

=C$2*IF(C$2<=200,10.95,IF(C$2<=500,10.85,10.75))

ลลงแบบนี้ครับ

D1 =IF(ROW(A1)=MATCH(A1,$A$1:$A$3136,0),SUMPRODUCT(--($A$1:$A$3136=$A1),--($C$2:$C$3137-$C$1:$C$3136>=1/24/60))+1,"") คัดลอกสูตรลง

อาจารยไม่ให้แนบไฟล์จริงอ่านกฎข้างบนประกอบ ทำไฟล์เลียนแบบแนบมาแทนครับ

ขอตัวอย่างไฟล์เอ็กเซลที่เขียนคำตอบแบบที่อยากได้มาด้วยครับ

ประมาณ 2500 column คอลัมน์มันคือแนวซ้ายขวา บรรทัดคือแนวบนล่าง แบบที่ส่งมาคือแนวบรรทัด ง่าย ๆ ตามวิธีผม 1. คอลัมน์ A เติมอาคารให้ครบทุกเซลล์ของแต่ละชุด 2. คลุมคอลัมน์ A (คลิกหัวคอลัมน์ A) 3. เข้าเมนู Data ~~> Filter ~~> เลือกคำว่าอาคาร ~~> คลุมเลือกข้อมูลที่มาจาก Filter ยกเว้นหัวคอลัมน์ ~~> กดปุ่ม D...

น่าจะแบบนี้นะครับ

M5 =ABS(K5-J5)
N5 =INDEX($J$3:$K$3,MATCH(MAX(J5:K5),J5:K5,0))

เอารูปแบบมาจากเซลล์อื่นที่ไม่มี ' นำครับ

เลือกเซลล์ต้นแบบ คลิก Home ~~> คลิก Format Painter ~~> คลิกเซลล์ที่มี ' นำ

ลองแบบนี้ดูครับ Y4 =IFERROR(SMALL(IF(Data!$B$3:$B$29=$B$1,ROW(Data!$B$3:$B$29)),ROWS(Y$4:Y4)),"") เป็นสูตรอาร์เรย์ เขียนเสร็จแล้วอย่ากด enter อย่างเดียว ต้องกด ctrl ค้างไว้ตามด้วย shift+enter เสร็จแล้วคัดลอกสูตรลง เอาไว้แสดงค่าบรรทัดที่เข้าเงื่อนไข A4 =IF($Y4="","",INDE...

ลองดูครับ C4 =IFERROR(INDEX('ตาราง น.'!C:C,AGGREGATE(15,6,ROW('ตาราง น.'!$B$3:$B$32)/((INDEX('ตาราง น.'!$D$3:$K$32,0,MATCH($C$2,'ตาราง น.'!$D$2:$K$2,0))=$B$2)+(INDEX('ตาราง น.'!$D$3:$K$32,0,MATCH($C$2,'ตาราง น.'!$D$2:$K$2,0)+1)=$B$2)),ROWS(C$4:C4))),"") อย่าลืมเขียนเลขปี👈ให้เป็นแบบเดียวกัน...

แบบนี้เป็นไงครับ

L2 =COUNTIFS($N2:INDEX($N2:$BA2,MATCH(9.99999999999999E+307,$N$43:$BA$43)),"<"&10^307)
M2 =COLUMNS($N2:INDEX($N2:$BA2,MATCH(9.99999999999999E+307,$N$43:$BA$43)))-L2

ในรูปทำไมเซลล์ m3 ได้คำตอบเป็น 1 ทำไมไม่ได้ 3 นับยังไงครับ

แนบไฟล์เอ็กเซลล์มาด้วยครับ

สูตรที่ตอบไปผิดตรงไหนอีกครับ ขอตัวอย่างเซลล์และขอคำตอบที่ถูก ขอวิธีนับด้วยครับ