Excel Forum

กดแป้น Alt+O, D ก็จะแสดงหน้าต่างสำหรับการทำ Conditional Formatting ครับ จากนั้นเลือก Condition เดิมที่ต้องการแก้ไขแล้วคลิกปุ่ม Edit

กรณีเข้าตามเมนู ให้เข้าเมนู Home > Conditional Formatting > Manage Rules

:D ที่ Link นี้มี Code สำหรับการลบรูปเก่าทิ้งไปอยู่ด้วยครับ http://snasui.blogspot.com/2011/05/folder-excel.html กรณีที่้ต้องการให้เปลียน O1 แล้ว Code ทำงาน ใน Sheet1 ปรับ Code เป็นตามด้านล่างครับ Private Sub Worksheet_Change(ByVal Target As Range) If Target.Address = "$O$1" Then Call Show...

:D ให้เพิ่มเข้าเมนู Insert แล้วเลือก Module เพื่อแทรก Module ขึ้นมาใหม่ จากนั้นนำ Code นี้ไปวาง และทำการ Assign Macro ให้กับปุ่ม Input Sub Show() UserForm1.Show vbModeless End Sub และปรับ Code ด้านล่างนี้เพื่อให้สามารถเลือกวางที่เซลล์ใด ๆ ได้ตามต้องการ Private Sub Save_Click() If Me.TextBox1.Value <...

แสดงว่าบรรทัดล่างสุดมีเซลล์ที่ไม่ว่างอยู่ครับ อาจจะไปโดนแป้น Space bar โดยบังเอิญ เลยทำให้มีค่าใด ๆ อยู่ในบรรทีดสุดท้าย ลองเลือกบรรทัดหลังจากบรรทัดที่มีข้อมูล เช่นเลือกตั้งแต่บรรทัด 6001 เป็นต้นไปจนถึงบรรทัดสุดท้าย คลิกขวาตรงหัวบรรทัดแล้วเลือก Delete จากนั้นทดสอบแทรกดูใหม่ครับ

ลองแนบไฟล์ที่ได้พยายามทำเองแล้ว อธิบายส่วนที่ติดปัญหาและคำตอบที่ต้องการได้ที่หมวด Excel ครับ

ที่เซลล์ H2 คีย์

=INDEX($C$2:$C$672,MATCH(1,IF($A$2:$A$672=F2,IF($B$2:$B$672=G2,1)),0))

Ctrl+Shift+Enter > Copy ลงด้านล่าง

snasui wrote: มันไม่ได้อยู่ที่ Code ผมครับ

ก็แสดงว่าอยู่ที่ Excel 2007 นั่นแหละครับที่ไมรองรับ Reference ตัวใหม่ ผมถึงต้องปรับมาให้ใช้ตัวต่ำลงมา จึงบอกว่าไม่ได้อยู่ที่ Code ผมครับ

ปัญหาคือช่วงเซลล์ D1349:D1376 มีสภาพเป็น Text (ค่าในเซลล์เป็น Text ที่มีความกว้างเป็น 0 อักขระ) สามารถเปลี่ยนสูตรที่ BH4 เป็น

=SUMPRODUCT(--($S$3:$S$12143=U3),--($C$3:$C$12143<>""),--(0&$D$3:$D$12143))

Enter > Copy ลงด้านล่าง

ลองแบบนี้ได้ไหมครับ คลิ๊กขวาที่ Sheet1 แล้วเลือก View Code Copy Code ด้านล่างวางครับ Private Sub Worksheet_Change(ByVal Target As Range) If Not Intersect(Target(1, 1), Range("A:D")) Is Nothing Then Range("A:D").Sort Key1:=Range("A1"), Order1:=xlAscending, Header:=xlGue...

หลังจากวางสูตรลงไปแล้ว ได้ กด Ctrl+Shift+Enter หรือไม่ครับ :D การไม่กด Ctrl+Shift+Enter จะไม่เกิดค่าผิดพลาดเป็น #Name? แต่จะเป็น #Value! ครับ กรณี #Name? คือเขียนฟังก์ชั่นที่ไม่มีอยู่จริง อ้างถึง Range Name ที่ไม่มีอยู่จริง เมื่อลองทำแล้วติดปัญหา ช่วยแนบไฟล์ที่ติดปัญหานั้นมาถามกัน เพื่อจะได้ทราบปัญ...

:D ต้องขออภัยที่จะบอกว่าที่นี่ไม่มีนโยบายสอนการเขียน Code VBA ครับ การใช้ VBA จำเป็นต้องศึกษามาเองเป็นลำดับมาก่อน ที่นี่จะตอบเฉพาะที่ทำมาแล้วติดปัญหา อ่านกฎข้อ 5 ด้านบน :roll: และที่นี่เพิ่มเติมครับ http://snasui.com/viewtopic.php?f=3&t=3203 งดใช้ภาษาแชทในฟอรัมสำหรับถามตอบปัญหาครับ คือไม่มีความร...

wisit wrote: =IF($C$3:$C$12143<>"",SUMPRODUCT(--($J$3:$J$12143=O3),$D$3:$D$12143+0))

สูตรนี้ไม่ถูกต้องตรงที่ระบายสีแดงครับ ควรอ้างเซลล์ใดเซลล์หนึ่งไม่ใช่อ้างช่วงเซลล์ และควรอ่านความเห็นด้านบนประกอบด้วยครับ

อาจารย์ครับเมื่อผมให้สูตร =IF($C$3:$C$12143<>"",SUMPRODUCT(--($J$3:$J$12143=O3),$D$3:$D$12143+0)) โปรแกรมคำนวณให้แต่เมื่อเราก๊อปปี้ลงด้านล่าง จะขึ้นคำว่า FALSE และเมื่อคีย์ค่าบิลเช่น 2N โปรแกรมก็จะไม่คำนวณจำนวนเงินให้ และถ้าไม่ได้คีย์รหัสสินค้า โปรแกรมก็ยังคำนวณจำนวนเงินให้อยู่ดีครับ :D ใ...

ใช้สูตร If เข้ามาช่วยตรวจสอบครับ เช่น

=If(A1<>"",Sumproduct(...),"")

:D แต่ปัญหาของผมคือ สมมุติเราก๊อปปี้ในเซลในคอลัมน์ C3:C11 และ D3:D11 เพื่อนำไปวางไว้ในคอลัมน์ F3:F11 และ G3:G11 (ไฟล์จริงมีรหัสสินค้าและคอลัมน์มากกว่านี้ ซึ่งการคีย์รหัสสินค้าบางตัวใช้รหัสเหมือนกัน ซึ่งลูกค้าจะสั่งเหมือนกัน แต่จำนวนเงินอาจจะต่างกัน) แต่เราวางผิดคอลัมน์ โดยนำไปวางไว้ในคอลัมน์ G3:G11 ...

เวลาให้ com02 printงานที่พิมพ์ มันผิดสัดส่วนครับ -- ผมใช้ excel 2003 ผมต้องตั้งค่าอะไรอย่างไรบ้างครับเพื่อให้computer 2เครื่อง ใช้งานexcel ไฟล์เดียวกันไ้ด้ครับ :D การกำหนดค่าการพิมพ์ผิดสัดส่วนเพราะติดตั้ง Printer คนละรุ่นกัน ให้กำหนดการตั้งค่าการพิมพ์ใหม่หรือหากต้องการให้เหมือนกันก็ต้องติดตั้งเครื่...

ใน com2 ได้ตรวจสอบการกำหนด Macro Security ดูแล้วตามด้านล่างแล้วยังครับ

Tools > Macro > Security > กำหนดเป็น Medium หรือ Low กรณีเลือกเป็น Medium จะต้องคลิกยอมรับการใช้งาน Macro ทุกครั้ง

หากเปิดไฟล์มาก่อนแล้ว Enable Macro ทีหลังให้ปิดไฟล์ไปก่อนแล้วค่อยเปิดมาใหม่ครับ

ผม Copy สูตรมาไม่ครบได้กลับไปเพิ่มเติมให้แล้วครับ

สำหรับที่เข้าใจนั้นถูกแล้วครับ ส่วนผลลัพธ์จะเป็นเท่าไรขึ้นอยู่กับเงื่อนไข ลองเปลี่ยนค่าที่ต้นทางแล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลงครับ

:D เช็ค col E G H I ถ้า col I ไม่มี ก็เช็คแค่ col E G H ครับ ลองตามนี้ครับ ที่ Sheet1 เซลล์ J1 คีย์ =INDEX(Sheet2!$J$1:$J$7,MATCH(1,IF(I1="",IF(E1=Sheet2!$E$1:$E$7+0,IF(G1=Sheet2!$G$1:$G$7,IF(H1=Sheet2!$H$1:$H$7,1))),IF(E1=Sheet2!$E$1:$E$7+0,IF(G1=Sheet2!$G$1:$G$7,IF(H1=Sheet2!$H$1:$H$7,IF...

สามารถเขียนเป็นสูตรเดียวได้ครับ พยายามถามพร้อมไฟล์ตัวอย่างจะได้เข้าใจตรงกันครับ