Excel Forum

ผมเพิ่มปุ่มแล้วครับ กด save แล้ว แต่ได้เหมือนเดิมครับ productID ไม่มาครับ

ไม่แน่ใจว่าต้องเขียนโค็ดในการ save อย่างไรครับ เพราะเวลาเพิ่ม เพิ่มในรูปที่ 1 (subform) แต่เวลาข้อมูลแสดงมีข้อมูล แต่ไม่ช่อง ProductID เป็นช่องว่างตามรูปที่ 2 ครับ

ที่ผมพยายามจะเพิ่มข้อมูลไปในนั้น คือ การแก้ไขข้อมูล ย่อยในแต่ละ product ครับ ซึ่ง ขออนุญาต อธิบายก่อนครับ
1 Product จะมีหลาย fitting ซึ่งที่ผมกล่าวไปข้างต้น ปัญหาจะไม่เกิดถ้ากรณี เพิ่ม product กับ fitting พร้อมกันในทีเดียว ใน frm_product ครับ

แต่จะมีกรณีที่อยากจะแก้ไข ผมจะสร้างฟอร์มขึ้นมา 1 ฟอร์ม ...

ตอนนี้ตัดเฉพาะปัญหาแล้วครับ แต่ยังแนบใน ระบบไม่ได้ ข้อมูลก็ตัดออกหมดแล้วครับ

จากคำอธิบายและข้อสังเกตที่แจ้งมา หากข้อมูลไม่ถูกบันทึกเข้า Table หลัก มันก็ไม่ควรจะนำมาแสดงได้ ก็ต้องตามไปแก้ไขปัญหานั้นเสียก่อนครับ

ในส่วนนี้ผมไม่แน่ใจเหมือนกันครับ เพราะว่าผมใช้ sub form เพิ่มได้ตามปกติ แต่ พอทำหน้า ...

เรียนผู้รู้ทุกท่าน

การเพิ่มข้อมูลใน sub form ไม่มาครับ

ถ้าเพิ่มใน frm_main --> add Data จะสามารถ เพิ่ม ProductID และรายละเอียดของ fitting ได้

ทีนี้ผมจะสร้าง หน้าใหม่ขึ้นมาว่า frm-show คือโชว์ ProductID ทั้งหมดดังรูปครับ และ สร้าง action ให้ไป link กับ subform ข้อมูลเก่าๆ ก็มาครับ ปัญหาคือ
1.ในช ...

คลุมแถวที่ต้องการใส่ Condition format แล้ว เลือก Less than คีย์ $F3 ตามรูปด้านล่างครับ

ผมใช้ search เครื่องปกติ จะแสดงในรูปครับ แต่กับอีกเครื่องนึง return #VALUE มาครับ ทั้งๆ มีครับ

=LOOKUP(2,1/((SEARCH($E4,$A$1:$A$2))*SEARCH($E3,$C$2:$C$3)),$B$1:$B$2)

สามารถใช้สูตรอะไรแทนได้ เพราะมีปัญหาเวลามี 2 ค่าจะสุ่มเอาค่ามา หรือตัวที่น้อยที่สุดมากครับ ขอบคุณมากครับ

Target 60,000 Pcs
Working Hour 6 Hr
1 worker ได้ 103.0769231 SKU ปัด 103
1 worker ได้ 3021.2307 Pcs ปัด 3021
ใช้จำนวนคน 19.8594 ปัด 20 คน
ประมาณนี้ครับ

เพิ่มชีทใหม่ (sheet1) ใส่สูตร
A2=IFERROR(INDEX(data!G:G,AGGREGATE(15,6,ROW(Table1[เลขที่ใบเบิก])/(0<FREQUENCY(MATCH(Table1[เลขที่ใบเบิก],Table1[เลขที่ใบเบิก],0),ROW(Table1[เลขที่ใบเบิก])-ROW(data!G3)+1)),ROWS(A$2:A2))),"")

แล้วลากลงมา

ใน K4 ---> Data Validation -->list ใส่สูตรนี้ครับ
=OFFSET ...

แทรก Column หรือ แก้ใน Column C [ลำดับ] ใส่

สูตรเป็น C3=COUNTIF(G3:G$3,G3)

ลากสูตรลงมาครับ

ปรับสูตรตามนี้ครับ

=IFERROR(INDEX(B:B,AGGREGATE(15,6,ROW($C$7:$C$25)/(($AQ$1=$C$6:$AF$6)/($C$5:$AF$5=$AN$1)/($C$7:$AF$25<>"")),ROW(A1))),"")

talayphuket wrote: Thu Aug 29, 2024 1:15 pm เรียน คุณ puriwutpokin

สูตรที่ให้มา เมื่อลองทำแล้ว ในตัวคอลัมม์ C ถ้าจำนวนเงินต่างหลักกันไป จะต้องมาเปลี่ยนตัวกำกับเพื่อให้สูตรแสดงผลลัพธ์จำนวนเงินที่ต้องการ (ตามไฟล์แนบ)

ปรับสูตร Column C ตามนี้ครับ

=LEFT(RIGHT(A2,13)*1,LEN(RIGHT(A2,13)*1)-3)/100

ลากลงมาครับ

กรุณาแนบไฟล์ที่เกี่ยวข้องมาด้วยครับ เพิ่มง่ายต่อการตอบของเพื่อนสมาชิกครับ

snasui wrote: Wed Jul 24, 2024 1:37 pm อ่านโพสต์ด้านบน ผมเพิ่ง Update สูตรเพิ่มเข้าไปครับ

ขอบคุณมากครับ

ลองสูตรนี้ครับ

=SUBSTITUTE(A2,CHAR(160),"")+0

copy ลงไป

ลองสูตรนี้ครับ

=IF(COUNTIF($G$5:$G$14,$D$2)=COUNTA($G$5:$G$14),"OK","NG")

ในส่วนนี้ผมลองเปลี่ยนเป็นเลข 15 แทน แต่ค่าที่ได้ เป็น 0 ทั้งหมดเลยครับ ไม่ได้ค่าน้อยที่สุด
:D นั่นคือค่าที่น้อยที่สุดของข้อมูลนี้

ลองทำตัวอย่างเอง เป็นตัวอย่างเล็ก ๆ เพียงไม่กี่บรรทัดแล้วตรวจสอบดูว่ามันทำงานอย่างไรครับ


ไม่ใช่คำตอบของ ค่าที่น้อยที่สุดของรหัสนั้นๆ ใช่หรือไม่ครับ ถ้ากรณ ...

1) เลข 1 ท้ายสูตรมีความหมายว่าอย่างไรครับปกติเห็นในบอร์ดจะใช้ Rows(A$1:A1)
:D แปลว่าหาค่าที่ มากที่สุด เป็นลำดับ 1 สูตร Rows(A$1:A1) กับ 1 เทียบเท่ากัน ปกตินำสูตรมาใช้ในส่วนนี้เพราะต้องการให้ Dynamic นั่นคือเมื่อคัดลอกลงไปจะหมายถึงค่าที่มากที่สุดเป็นลำดับ 2, 3... ไปเรื่อย ๆ ได้

ขอบคุณครับ ...

ไม่เข้าใจครับ ควรอธิบายให้ชัดเจน ว่าต้องการทำอะไร ยังไงครับ