Snasui Excel Forum

พอดีไปเจอสูตรนี้มา ครับ UniqueItems มันมีความหมายว่าอะไรครับ
พอดีผมลองทำ dropdown list แต่มันซ้ำกันเลยลองหาข้อมูลใน net ไปเจอสูตรนี้มา UniqueItems เลยสนใจเพราะเป็นความรู้ใหม่

เลยอยากถามว่า

1.มันมีความหมายว่าอะไรครับ
2.วิธีการทำเป็นยังไงครับ
3.ขอตัวอย่างพอเข้าใจสัก 1 ตัวอย่าง ครับ

รบกวนด้วยครับ

ไม่ทราบว่าไปเจอสูตรที่ว่านั้นมาจากไหนครับ

คำว่า Uniqueitems ที่ถามมานั้นน่าจะหมายถึงการหาค่าที่ไม่ซ้ำ ผมได้ทำตัวอย่างการหาค่าที่ไม่ซ้ำไว้หลาย ๆ วิธีลองศึกษาจาก Link นี้ครับ http://snasui.blogspot.com/2010/05/blog-post.html

เรียน คุณ คนควน ครับ

ได้มาจากเวปนี้อ่ะครับ http://www.excelexperttraining.com/foru ... php?t=3094

ผมรบกวนถามต่ครับ

ถ้าเราเอา Link นี้ไปทำใน 2007 ต้องทำไงอ่ะครับ http://snasui.blogspot.com/2010/07/validation.html

ขอบคุณครับ

ตาม Link ที่แนบมา หากไม่เข้าใจตรงไหนให้เขียนถามมาใหม่เลยครับ อย่าไป Copy ข้อความหรืออ้าง Link มาถาม เพื่อความสบายใจของแหล่งข้อมูล และหากสะดวกก็ถามที่ต้นแหล่งเลยครับ

ใน Excel 2007 มีเมนูที่แตกต่างเพียงเมนูเดียวคือการให้ชื่อกับช่วงข้อมูล ต้องเข้าที่ Formulas > Name Manager ส่วนการทำ Validation เข้าเมนู Data > Data Validation

ลองทำมาดูก่อนครับ ติดตรงไหนก็ถามมาได้เรื่อย ๆ ครับ

ขอบคุณครับ เดี่ยวลองทำก่อนหากติดขัดประการใดเดี่ยว Post ถามน่ะครับ
และถ้าหากผมผิดพลาดประการต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ครับ

เรียน คุณคนควน ครับ

ผมอยากทราบว่าถ้าเราทำ Drop Down List ให้มันจับกลุ่มกันอ่ะครับไม่ทราบว่าสามารถทำได้หรือป่าวครับ

คือผมนั่ง งง อยู่นานมากอ่ะครับ

ยกตัวอย่างเช่น

Colum D จะทั้ง 2703 , 1002

Coum F จะมีหลายอย่างมาก

ที่ต้องการคือ สมมุติว่า ถ้าเราเลือก 2703 จะมี list location ที่ตรงกับ 2703 ขึ้นมา Drop Down List ครับ

งดถามถึงผมโดยตรงครับ เนื่องจากท่านอื่น ๆ จะไม่เข้ามาตอบ

การทำเช่นที่ต้องการนั้นจะต้องทำ Location ให้เป็น Unique List เสียก่อนแล้วค่อยนำมาใช้ใน K4 ดูตัวอย่างการหา Unique จาก Link ที่ผมให้ไปแล้วลองทำดูก่อนครับ ส่วนที่ K6 ค่อยทำต่อจากนั้นหลังจากสามารถทำ Unique ได้แล้ว

ผมลองทำแล้วครับและออกมาตามไฟล์ที่แนบมาครับ

เลือกใช้แบบสูตรจะทำให้ไฟล์คำนวณช้านะครับ เนื่องจากข้อมูลมีจำนวนมาก

ผมตั้งใจว่าให้ทำ Plant เป็น Unique List แต่เขียนผิดเป็น Location แต่ไม่เป็นไร ผมทำตัวอย่างมาให้ดูแล้วตามไฟล์แนบ ลองตรวจสอบการตั้งชื่อให้กับข้อมูลโดยเข้าเมนู Insert > Name > Define กรณีเป็น Excel 2003 และสังเกตการนำชื่อไปใช้ใน Validation ครับ

แล้วถ้ากรณีเป็น 2007 ล่ะครับ ต้องทำยังไงครับ แล้ว ลิป ก่อนที่ผมทำพอจะถูกหรือไม่ ครับ

ที่ทำมาไม่ถูกครับ เครื่องหมาย "" คือฟันหนูซ้อนกันสองตัวไม่ใช่อักขระที่เขียนมา นอกจากนี้ทำ Unique list ผิดข้อมูลเนื่องจากผมบอกผิดไป สำหรับเมนูการสร้าง Range Name, Validation ผมตอบไปแล้วครับตามนี้

snasui wrote: ตาม Link ที่แนบมา หากไม่เข้าใจตรงไหนให้เขียนถามมาใหม่เลยครับ อย่าไป Copy ข้อความหรืออ้าง Link มาถาม เพื่อความสบายใจของแหล่งข้อมูล และหากสะดวกก็ถามที่ต้นแหล่งเลยครับ

ใน Excel 2007 มีเมนูที่แตกต่างเพียงเมนูเดียวคือการให้ชื่อกับช่วงข้อมูล ต้องเข้าที่ Formulas > Name Manager ส่วนการทำ Validation เข้าเมนู Data > Data Validation

ลองทำมาดูก่อนครับ ติดตรงไหนก็ถามมาได้เรื่อย ๆ ครับ

ควรสร้างไฟล์ให้ตรงกับรุ่นของ Excel จะได้สะดวกในการถามตอบครับ

ประเด็นนี้น่าสนใจ ขอแจมด้วยครับ อิอิ

ผมได้ทำไฟล์ทดสอบมาให้ดู ลองดูน่ะครับ ว่าใช้ที่ต้องการไหม

bank9597 wrote: ประเด็นนี้น่าสนใจ ขอแจมด้วยครับ อิอิ

ผมได้ทำไฟล์ทดสอบมาให้ดู ลองดูน่ะครับ ว่าใช้ที่ต้องการไหม

ที่ Sheet1 เซลล์ G2 ซึ่งเป็นการให้ลำดับไม่ควรใช้สูตร Row() แล้วลบด้วยเลขบรรทัดก่อนหน้าเช่นตามด้านล่าง

=IF(F2<>"",(ROW()-1)*(NOT(ISBLANK(F2))),"")

หากมีการแทรกบรรทัดที่ 1 จะให้คำตอบไม่ถูกต้อง และจะต้องคอยแก้สูตรทุกครั้งที่มีการแทรกหรือลบบรรทัดก่อนหน้าช่วงข้อมูลครับ ควรจะเปลี่ยนเป็นตามด้านล่าง

=IF(F2<>"",ROWS($G$2:G2),"")

หากมีการแทรกบรรทัดที่ 1 จะให้คำตอบไม่ถูกต้อง และจะต้องคอยแก้สูตรทุกครั้งที่มีการแทรกหรือลบบรรทัดก่อนหน้าช่วงข้อมูลครับ

ทดสอบแล้ว เป็นจริงดั่งที่อาจารย์บอกครับ จะใช้สูตรตระกูล COUNT ทั้งหลาย นับจำนวน ในเซลล์ F2:F100 ก็ไม่สามารถทำได้ครับ เพราะข้อมูลเป็น Text ตอนนั้นคิดอย่างเดียวคือต้องนับจำนวนเอาครับ เลยใช้สูตรดังกล่าวไปครับ แต่ไม่ได้คิดถึงสูตรอื่น(ทั้งๆที่รู้วิธีทำอยู่แล้วแท้ๆ)
สุดท้ายคือยังบกพร่องอยู่ดี

รบกวนถามนิดนึงครับเครื่อง "" ฟันหนู "<>" ใช้ต่างกันอย่างไรครับ ค่อนข้างสับสนครับ เพราะเลือกใช้ไม่ค่อยจะถูก ถึงจะใช้ถูกแต่ก้ไม่แม่นเรื่องความหมายของมันว่าควรใช้กับสูตรไหนแล้วได้ผลเป็นอย่างไร รบกวนอาจารย์แนะนำด้วยครับ

bank9597 wrote:รบกวนถามนิดนึงครับเครื่อง "" ฟันหนู "<>" ใช้ต่างกันอย่างไรครับ ค่อนข้างสับสนครับ เพราะเลือกใช้ไม่ค่อยจะถูก ถึงจะใช้ถูกแต่ก้ไม่แม่นเรื่องความหมายของมันว่าควรใช้กับสูตรไหนแล้วได้ผลเป็นอย่างไร รบกวนอาจารย์แนะนำด้วยครับ

ตอบแบบหลัก ๆ นะครับ เครื่องหมาย "" แทนค่าว่างที่ได้จากสูตรอื่น ๆ ที่กำหนดเงื่อนไขว่าให้แสดงผลลัพธ์ให้เห็นเป็นเซลล์ว่างหรือแทนเซลล์ที่ว่างเปล่า ส่วน "<>" แทนเซลล์ที่ไม่ว่างเปล่า

"<>" นั้น ผมมักจะนำมาใช้ใน Countif, Sumif เพื่อให้นับหรือรวมเซลล์ที่ไม่ว่างเปล่าหรือเซลล์ที่สัมพันธ์กับเซลล์ที่ไม่ว่างเปล่าเพื่อจะได้เขียนสูตรสั้นลง ส่วน "" จะใช้ในสูตรสำหรับการเปรียบเทียบทั้งหลายนอกเหนือจาก Countif, Sumif เช่น

=If(A1<>"",1,2)

จะหมายถึงว่าหากเซลล์ A1 ไม่เป็นเซลล์ว่างเปล่าและไม่เป็นค่าว่างที่ได้จากสูตรแล้วให้แสดงผลลัพธ์เป็น 1 หากไม่เช่นนั้นให้แสดงผลลัพธ์เป็น 2

โอ๊ว...เข้าใจขึ้นมาเยอะครับ ขอบคุณครับ อิอิ

ยังมีอีกนิดครับ เครื่องหมาย "<>" ใช้แทนค่าที่ไม่ว่าง แต่บางครั้งเมื่อนำมาเป็นเงื่อนไขเปรียบเทียบ จะต้องเปลี่ยน "<>" เป็น <>"" ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ คนยังไม่เคยใช้สูตร ก็ยากที่จะรู้ได้ว่ามันจะใช้อย่างไรครับ ยกตัวอย่างครับ =COUNTIF(TEST!A2:A10,"<>") พอนำมาแปลงค่ากับ INDEX จะต้องเปลี่ยน "<>" เป็น <>"" เพื่อใช้เป็นตัวอ้างอิง หัวข้อดังกล่าว ยังถือว่ายากครับ นอกจากคนเคยได้ใช้จริงๆ

bank9597 wrote:คนยังไม่เคยใช้สูตร ก็ยากที่จะรู้ได้ว่ามันจะใช้อย่างไรครับ ยกตัวอย่างครับ =COUNTIF(TEST!A2:A10,"<>") พอนำมาแปลงค่ากับ INDEX จะต้องเปลี่ยน "<>" เป็น <>"" เพื่อใช้เป็นตัวอ้างอิง หัวข้อดังกล่าว ยังถือว่ายากครับ นอกจากคนเคยได้ใช้จริงๆ

สูตรด้านบนเป็นการใช้ในแบบประยุกต์และไม่ใช่บังคับหรือจำเป็นต้องทราบว่าใช้เช่นนั้น คนที่จะทราบได้ต้องศึกษามาพอสมควรครับ สำหรับการใช้แบบทั่ว ๆ ไปเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นสามารถเขียนได้เป็นเช่นด้านล่างครับ

=COUNTIF(TEST!A2:A10,"<>"&"")

กรณีที่เป็นข้อสงสัยใด ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับกระทู้ ควรแยกถามต่างหากเพื่อสะดวกต่อการค้นหาของเพื่อนสมาชิกครับ

โอ๊ว...ขออภัยครับ ถามติดลมไปหน่อยจนลืมหัวข้อ