Excel Forum

รบกวนสอบถามครับ ต้องการทำ Drop downlist แบบหลายเงื่อนไข โดยให้เลือกชื่อบริษัทในช่อง G1 จากนั้น ไปเลือกสินค้าในช่อง H1 ปัญหาคือ ข้อมูลใน Sheet 1 ไม่สามารถจัดเรียงได้ครับ ตอนนี้ใช้สูตร =OFFSET(Sheet1!$D$2,MATCH(G1,Sheet1!$C:$C,0)-4,0,COUNTIFS(Sheet1!C:C,G1),1) มันจะนับแถวที่อยู่ติดกันลงมาทั้งหมดครับ มันไม่ได้เลือกตามชื่อลูกค้าที่เราต้องการครับ

จขกท,

H1 data validation ตามแนบเป็นไปตามต้องการหรือไม่
ผมต้องมี Column ช่วยในการทำ sheet 1 นะครับ

เรียนท่านอาจารย์

Sheet 1
Col E สูตร Max
มีข้อสงสัยมาก ว่าทำไม +1 แล้วค่าตัวเลขที่ได้เป็น หลักพัน

Col G สูตร small
ได้ค่าไม่เท่ากับ ค่าต้นทางที่ค้นหา ยังต้อง +1 ให้ค่าเท่ากัน

Collum H1 เป็นไปตามต้องการครับ

Supachok wrote: Sat Nov 27, 2021 7:37 pm Sheet 1
Col E สูตร Max
มีข้อสงสัยมาก ว่าทำไม +1 แล้วค่าตัวเลขที่ได้เป็น หลักพัน

Col G สูตร small
ได้ค่าไม่เท่ากับ ค่าต้นทางที่ค้นหา ยังต้อง +1 ให้ค่าเท่ากัน

เกิดจากการคำนวณเป็นวงกลมครับ

ตัวอย่างการปรับสูตรไม่ให้เป็นวงกลมตามด้านล่างครับ

1. ที่ E2 คีย์
   =IF(ISNUMBER(SEARCH(Sheet6!$G$1,C2)),MAX($E$1:E1)+1)
   Enter > Copy ลงด้านล่าง
2. ที่ G2 คีย์
   =SMALL($E$2:$E$50,ROW(A1))
   Enter > Copy ลงด้านล่าง

เปลี่ยน Option ไม่ให้ยอมรับการคำนวณเป็นวงกลมโดย

1. เข้าเมนู File > Options
2. เลือก Formula > ตรง Calculation Option ปลดเครื่องหมายที่ Enable iterative calculation

รบกวนสอบถามเพิ่มครับ ที่Sheet6 collum A ผมใช้สูตรนี้ในการดึงชื่อบริษัทที่ซ้ำกัน ออกมา ซึ่งข้อมูลจริงๆเยอะกว่านี้มาก เวลาที่ใส่สูตรเยอะๆ เหมือนเครื่องจะต้องคำนวณนานมาก ถ้าทำแบบที่อาจารย์บอกว่า เปลี่ยน Option ไม่ให้ยอมรับการคำนวณเป็นวงกลม จะทำให้การคำนวณเร็วขึ้นด้วยมั้ยครับ หรือว่าควรใช้สูตรอื่นแทนครับ
{=IFERROR(INDEX(Sheet1!$C$2:Sheet1!$C$50000,SMALL(IF(FREQUENCY(IF(Sheet1!$C$2:$C$50000<>"",MATCH(Sheet1!$C$2:$C$50000,Sheet1!$C$2:$C$50000,0)),ROW(Sheet1!$C$2:$C$50000)-ROW(Sheet1!$C$2)+1),ROW(Sheet1!$C$2:$C$50000)-ROW(Sheet1!$C$2)+1),ROWS(A$1:A3))),"")}

snasui wrote: Sat Nov 27, 2021 8:30 pm

Supachok wrote: Sat Nov 27, 2021 7:37 pm Sheet 1
Col E สูตร Max
มีข้อสงสัยมาก ว่าทำไม +1 แล้วค่าตัวเลขที่ได้เป็น หลักพัน

Col G สูตร small
ได้ค่าไม่เท่ากับ ค่าต้นทางที่ค้นหา ยังต้อง +1 ให้ค่าเท่ากัน

เกิดจากการคำนวณเป็นวงกลมครับ

ตัวอย่างการปรับสูตรไม่ให้เป็นวงกลมตามด้านล่างครับ

1. ที่ E2 คีย์
   =IF(ISNUMBER(SEARCH(Sheet6!$G$1,C2)),MAX($E$1:E1)+1)
   Enter > Copy ลงด้านล่าง
2. ที่ G2 คีย์
   =SMALL($E$2:$E$50,ROW(A1))
   Enter > Copy ลงด้านล่าง

เปลี่ยน Option ไม่ให้ยอมรับการคำนวณเป็นวงกลมโดย

1. เข้าเมนู File > Options
2. เลือก Formula > ตรง Calculation Option ปลดเครื่องหมายที่ Enable iterative calculation

เข้าใจแล้วครับขอบคุณครับ

sakajohn wrote: Sat Nov 27, 2021 9:14 pm เปลี่ยน Option ไม่ให้ยอมรับการคำนวณเป็นวงกลม จะทำให้การคำนวณเร็วขึ้นด้วยมั้ยครับ

ตรงนี้ไม่เกี่ยวกับการคำนวณเร็วแต่ควรจะปรับไม่ให้คำนวณเป็นวงกลมโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะหากคีย์สูตรโดยอ้างอิงเซลล์ผิดพลาดจะทำให้ได้ค่าที่ไม่ถูกต้องและยุ่งยากต่อการหาสาเหตุ

การใช้สูตร Array กับข้อมูลปริมาณมากย่อมจะทำให้คำนวณช้าครับ ไม่ทราบว่าปัจจุบันใช้ Excel Version ใด หากเป็น O365 จะมีฟังก์ชันสำหรับการแสดงค่าที่เป็น Unique โดยเฉพาะซึ่งจะคำนวณได้เร็วขึ้นครับ

เป๋น excel 2010 ครับ

กรุณา Update Version ของ Excel ที่ใช้งานจริงตาม Link นี้ด้วยครับ viewtopic.php?p=103177#p103177

ที่ A1 หาค่า Unique ปรับเป็นสูตรตามด้านล่างครับ

=IFERROR(INDEX(Sheet1!$C:C,AGGREGATE(15,6,ROW(Sheet1!$C$2:$C$50000)/(0<FREQUENCY(MATCH("~"&Sheet1!$C$2:$C$50000,Sheet1!$C$2:$C$50000&"",0),ROW(Sheet1!$C$2:$C$50000)-ROW(Sheet1!$C$2)+1)),ROWS(A$1:A1))),"")&""

Enter > Copy ลงด้านล่าง