Page 1 of 1

ดึงข้อมูลมาแสดงผลข้ามชีท โดยกรองจากวันที่

Posted: Sat Jan 14, 2023 8:52 am
by woodji
จะมีข้อมูล 2 ชีทครับ
1.Sheet ข้อมูล
2.Sheet นัดทำสัญญา

ในชีทรายงานอยากให้เราใส่วันที่ แล้วดึงข้อมูล เลขที่สัญญา,ชื่อ-นามสกุล มาใส่ในรายงาน ยกตัวอย่าง วันที่ 18/01/2566 มีนัดทำสัญญา 4 ราย ก็จะได้ดึงข้อมูลมาแสดงผลทั้ง 4 ราย หรือ ถ้าวันที่ 16/01/2566 มี 2 ราย ก็แสดงผล 2 ราย ครับ

ขอบคุณครับ

Re: ดึงข้อมูลมาแสดงผลข้ามชีท โดยกรองจากวันที่

Posted: Sat Jan 14, 2023 9:15 am
by snasui
:D ตัวอย่างสูตรที่ A4 ครับ

=IFERROR(INDEX(ข้อมูล!A:A,AGGREGATE(15,6,ROW(ข้อมูล!$A$2:$A$11)/(ข้อมูล!$C$2:$C$11=$B$1),ROWS($A$4:A4))),"")

Enter > Copy ไปทางขวาและลงด้านล่าง

Re: ดึงข้อมูลมาแสดงผลข้ามชีท โดยกรองจากวันที่

Posted: Sat Jan 14, 2023 9:31 am
by woodji
ขอบคุณมากครับ

Re: ดึงข้อมูลมาแสดงผลข้ามชีท โดยกรองจากวันที่

Posted: Sat Jan 14, 2023 10:34 am
by woodji
ลองดูสูตรยังไม่ค่อยเข้าใจ
ผมต้องศึกษา เรื่อง array เพิ่มเติมใช่ไหมครับ

Re: ดึงข้อมูลมาแสดงผลข้ามชีท โดยกรองจากวันที่

Posted: Sat Jan 14, 2023 11:31 am
by snasui
:D ทำความเข้าใจเรื่อง Array ไว้ก็ดีเพื่อความเข้าใจการทำงานของสูตรในรูปแบบต่าง ๆ ครับ

จากสูตร
snasui wrote: Sat Jan 14, 2023 9:15 am =IFERROR(INDEX(ข้อมูล!A:A,AGGREGATE(15,6,ROW(ข้อมูล!$A$2:$A$11)/(ข้อมูล!$C$2:$C$11=$B$1),ROWS($A$4:A4))),"")
หมายถึง จากช่วง ข้อมูล!A:A ให้นำตำแหน่งที่ AGGREGATE(15,6,ROW(ข้อมูล!$A$2:$A$11)/(ข้อมูล!$C$2:$C$11=$B$1),ROWS($A$4:A4)) มาแสดง ส่วน Iferror ที่ครอบอยู่ด้านนอกหมายถึง หากผลลัพธ์ส่วนนี้เป็นค่าผิดพลาดให้แสดงค่าว่าง

จากสูตร

AGGREGATE(15,6,ROW(ข้อมูล!$A$2:$A$11)/(ข้อมูล!$C$2:$C$11=$B$1),ROWS($A$4:A4))

หมายถึง จากผลลัพธ์ของ ROW(ข้อมูล!$A$2:$A$11)/(ข้อมูล!$C$2:$C$11=$B$1) ซึ่งจะเป็นชุดข้อมูล ให้นำค่าที่น้อยที่สุดในลำดับที่ได้จากค่า ROWS($A$4:A4) มาแสดง หาก ROWS($A$4:A4) เป็น 1 แปลว่าให้นำค่าที่น้อยที่สุดในลำดับที่ 1 มาแสดง

ROWS($A$4:A4) คือจำนวนบรรทัดจาก $A$4:A4 ซึ่งก็คือ 1 บรรทัด หากมีการคัดลอกลงไปด้านล่างจะกลายเป็น $A$4:A5 ซึ่งก็คือ 2 บรรทัด และจะแปลว่าให้นำค่าที่น้อยที่สุดในลำดับที่ 2 มาแสดง เช่นนี้เป็นต้น

ROW(ข้อมูล!$A$2:$A$11) คือค่าบรรทัดของ ข้อมูล!$A$2:$A$11 จะเป็นเป็นชุดของค่าคงที่ คือ {2;3;4;5;6;7;8;9;10;11}

ข้อมูล!$C$2:$C$11=$B$1 เป็นการนำชุดข้อมูลมาเทียบกับค่าเดี่ยวว่าเท่ากันหรือไม่ ผลลัพธ์จะเป็นชุดของค่าค่าคงที่แบบ Logic คือ True หรือ False เช่น {True;False;True;True;False;True;True;False;True;False}

สูตรชุดนี้ก็จะกลายเป็นเช่น {2;3;4;5;6;7;8;9;10;11}/{True;False;True;True;False;True;True;False;True;False}

จะเป็นการนำข้อมูลชุดด้านหน้า หารด้วย ชุดด้านหลังแบบตัวต่อตัว ค่าใดหารด้วย True เทียบกับเท่าหารด้วย 1 ค่าใดที่หารด้วย False เทียบเท่าการหารด้วย 0 จะติดค่า #Div0! ผลลัพธ์จะได้เป็น เช่น {2;#Div0!;4;5;#Div0!;7;8;#Div0!;10;#Div0!} เป็นต้น

ภาพรวมสูตรจะได้เป็น

AGGREGATE(15,6,{2;#Div0!;4;5;#Div0!;7;8;#Div0!;10;#Div0!},ROWS($A$4:A4))

จากสูตรนี้ค่าที่น้อยที่สุดในลำดับที่ 1 (ROWS($A$4:A4) ให้ผลลัพธ์เป็น 1) คือ 2

ภาพรวมจะได้เป็น

=IFERROR(INDEX(ข้อมูล!A:A,2),"")

ซึ่งหมายถึง จากช่วง ข้อมูล!A:A ให้นำค่าในลำดับที่ 2 มาแสดง และหากได้เป็นค่าผิดพลาดให้แสดงผลลัพธ์เป็นค่าว่าง