
จากสูตร INDEX($K$1:$AP$1,MATCH(LARGE($K2:$AP2,COLUMNS($AQ2:AQ2)),$K2:$AP2,0)) หมายความว่า จากช่วง $K$1:$AP$1 ให้นำ
ตำแหน่งที่เป็นผลลัพธ์ของสูตร MATCH(LARGE($K2:$AP2,COLUMNS($AQ2:AQ2)),$K2:$AP2,0) มาแสดง
จากสูตร MATCH(LARGE($K2:$AP2,COLUMNS($AQ2:AQ2)),$K2:$AP2,0) หมายถึงให้หาว่า LARGE($K2:$AP2,COLUMNS($AQ2:AQ2)) อยู่ใน
ลำดับที่เท่าไรของ K2:$AP2
จากสูตร LARGE($K2:$AP2,COLUMNS($AQ2:AQ2)) หมายถึง ให้หาค่าที่ใหญ่
ในลำดับที่เป็นผลลัพธ์ของ COLUMNS($AQ2:AQ2) จากช่วงข้อมูล $K2:$AP2
จากสูตร INDEX($C$1:$J$1,MATCH(MAX($C2:$J2),IF($C2:$J2="",0,$C2:$J2),0)) หมายถึง จากช่วง $C$1:$J$1 ให้นำตำแหน่งที่เป็นผลลัพธ์ของ MATCH(MAX($C2:$J2),IF($C2:$J2="",0,$C2:$J2),0) มาแสดง
จากสูตร MATCH(MAX($C2:$J2),IF($C2:$J2="",0,$C2:$J2),0) หมายถึง ให้หาว่าผลลัพธ์ของ MAX($C2:$J2) อยู่ในลำดับที่เท่าไรในผลลัพธ์ของ IF($C2:$J2="",0,$C2:$J2)
จากสูตร IF($C2:$J2="",0,$C2:$J2) หมายถึง หาก $C2:$J2 เท่ากับค่าว่าง ("") แล้ว ให้แสดงค่า 0 ถ้าไม่ว่างให้แสดงค่าในช่วง $C2:$J2