Excel Forum

สวัสดีครับ ผมใช้สูตร vlookup ในการหาข้อมูล แต่ผมอยากทราบว่าถ้าต้องการให้มันโชว์ 2 แถว ต้องเขียนยังไงต่อครับ

ผมค้นหาด้วยเลข 14 แต่มันโชว์แค่แถวเดียวครับ

แบบที่ต้องการ แบบที่ได้ออกมาครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ไฟล์แนบครับ

ที่ A3 คีย์
กด Ctrl+Shift+Enter คัดลอกทางขวา แล้วลงล่างพร้อมกัน

ขึ้นแต่ชื่อครับ แต่ข้อมูลมันซ้ำกันครับ ลองเปลี่ยนแล้วข้อมูลก็ไม่ตรงครับ
ขอบคุณครับ


แก้ไขครับ ทำได้แล้วครับ ขอบคุณครับ
รบกวนอีกอย่างครับ ช่วยอธิบายตรงสูตรได้ไหมครับ อยากได้แบบละเอียดเลยครับ

ขอบคุณมากๆครับ

ลองดูตามไฟล์แนบครับ

ขอบคุณครับผม

oanirud wrote:ช่วยอธิบายตรงสูตรได้ไหมครับ อยากได้แบบละเอียดเลยครับ

ในแบบละเอียดควรศึกษามาโดยตนเองจากแต่ละฟังก์ชั่นตามที่จะอธิบายตามด้านล่าง ไม่เข้าใจตรงไหนค่อยมาถามกันต่อครับ โดยสามารถศึกษาฟังก์ชั่นต่าง ๆ จาก Link นี้ครับ Excel Functions

จากสูตร =IFERROR(INDEX(Sheet2!B$2:B$147,SMALL(IF(Sheet2!$A$2:$A$147=$A$1,ROW(Sheet2!$A$2:$A$147)-ROW(Sheet2!$A$2)+1),ROWS($B$3:B3))),"")

ลำดับความคิดของสูตรตามด้านล่างครับ

1. หาค่าบรรทัดของข้อมูลออกมาให้ได้ก่อนว่า ข้อมูลบรรทัดใดตรงตามเงื่อนไขบ้างโดยใช้สูตร
   =IF(Sheet2!$A$2:$A$147=$A$1,ROW(Sheet2!$A$2:$A$147)-ROW(Sheet2!$A$2)+1)
   หมายถึง หาก Sheet2!$A$2:$A$147=$A$1 เป็นจริงแล้ว ให้แสดงลำดับบรรทัดของข้อมูล โดยเริ่มจากบรรทัดที่ 1 เสมอ หากไม่เป็นจริงให้แสดงค่า False
2. เนื่องจากข้อมูลที่เข้าเงื่อนไขมีหลายบรรทัด เราสามารถนำค่าบรรทัดข้อมูลออกมาแสดงทีละบรรทัดได้โดยใช้ Small เข้ามาช่วย จะได้เป็น
   =SMALL(IF(Sheet2!$A$2:$A$147=$A$1,ROW(Sheet2!$A$2:$A$147)-ROW(Sheet2!$A$2)+1),ROWS($B$3:B3))
   หมายถึงจากคำตอบตามข้อ 1 ให้นำค่าที่น้อยที่สุดเป็นลำดับที่ 1 มาแสดง หาก Copy ลงไปด้านล่างอีกบรรทัด ก็จะหมายถึง จากคำตอบตามข้อ 1 ให้ค่าที่น้อยที่สุดเป็นลำดับที่ 2 มาแสดง เช่นนี้ไปเรื่อยๆ
3. จากขั้นตอนที่ 2 เราได้ค่าบรรทัดของข้อมูลมาแล้ว หากต้องการนำข้อมูลมาแสดง สามารถใช้ Index เข้ามาช่วยได้ จะได้เป็น
   =INDEX(Sheet2!B$2:B$147,SMALL(IF(Sheet2!$A$2:$A$147=$A$1,ROW(Sheet2!$A$2:$A$147)-ROW(Sheet2!$A$2)+1),ROWS($B$3:B3)))
   หมายถึง จากช่วงข้อมูล Sheet2!B$2:B$147 ให้นำข้อมูลในลำดับที่ได้จากผลลัพธ์ของข้อ 2 มาแสดง
4. หากเรา Copy สูตรตามข้อ 3 ลงไปด้านล่างเรื่อย ๆ จนหมดข้อมูลที่เข้าเงื่อนไขแล้วจะเกิด Error หากไม่ต้องการให้แสดง Error สามารถใช้ Iferror เข้ามาช่วยได้เป็น
   =IFERROR(INDEX(Sheet2!B$2:B$147,SMALL(IF(Sheet2!$A$2:$A$147=$A$1,ROW(Sheet2!$A$2:$A$147)-ROW(Sheet2!$A$2)+1),ROWS($B$3:B3))),"")
   หมายถึง หากผลลัพธ์ตามข้อ 3 เป็นค่าผิดพลาดให้แสดงค่าว่าง หากไม่ผิดพลาดให้แสดงผลลัพธ์ตามปกติ