ถาม คอลัมน์ B และ C ใส่ข้อมูลอย่างไรค่ะ ถึงจะได้ ว ดป และ เวลา โชว์หน้าตาราง ดิฉันใส่ข้อมูล ไม่เป็นค่ะ
ตอบ กรอกข้อมูลอยู่ในรูป
d/m/yyyy hh:mm:ss เช่น 19/4/2013 12:10:50 ขอย้ำว่า
ต้องกรอกด้วยปีคริสตศักราช 4 หลักเท่านั้น และต้องเว้นวรรคระหว่างเลขวันเดือนปีกับเวลาด้วย
ถาม คอลัมน์ E การใช้สูตร Ceiling รบกวนช่วยอธิบายให้ฟังอีกครั้งนะคะ ว่าการใช้สูตรนี้ สำหรับการใช้งานอย่างไร แล้วที่ว่า 1/24 มาจากตรงไหนค่ะ
ตอบ ข้อกำหนดคุณต้องการปัดเศษนาทีที่เกินมาให้เป็น 1 ชั่วโมง หากใช้สูตร =CEILING(ระยะเวลา,1) จะกลายเป็นปัดขึ้น 1 วัน ดังนั้นต้องเอา 24 หาร เพื่อให้เหลือ 1 ชั่วโมงครับ
ถาม คอลัมน์ F สูตรคือ นำ คอลัมน์ E4 ลบ (1/12) ในวงเล็บนี้ มาจากตรงไหนคะ และ *10 คือชม.ละ 10 บาท ส่วน *24 คือ ได้มายังไงคะ
ตอบ คุณบอกว่า 2 ชั่วโมงแรกจอดฟรี ดังนั้น ต้องคิดหาว่า 2 ชั่วโมง เป็นเศษส่วนเท่าไหร่ของวัน ดังนั้นต้องเอา 24 หาร ซึ่งเท่ากับ 2/24 และเมื่อตัดทอนเป็นเศษส่วนอย่างต่ำคือ 1/12 ครับ จึงนำค่าดังกล่าวไปหักลบออก
ขอยกตัวอย่างการคำนวณหาค่าทำงานล่วงเวลา ครับ ซึ่งง่ายต่อการทำความเข้าใจ
เราต้องอาศัยความเข้าใจหน่วยนับพื้นฐานของค่าแรงล่วงเวลา
อัตราค่าแรงล่วงเวลา มีหน่วยเป็น
บาท/ชั่วโมง
แต่เนื่องจากค่าการจ่ายค่าแรงนิยมจ่ายเป็น
รายวัน นั่นก็คือค่าแรงรายวันมีหน่วยเป็น
บาท/วัน ส่งผลให้เราต้องเอา 24 คูณค่าแรงต่อหน่วย ตามด้วยการคูณระยะเวลาที่ทำไปครับ
หลักการการคำนวณหาค่าแรงล่วงเวลา นำมาประยุกต์ใช้กับการคำนวณหาค่าบริการที่ต้องชำระตามระยะเวลาที่ใช้ไปครับ
ถาม คอลัมน์ I สูตรนี้ อยากให้ช่วยอธิบายให้กระจ่างได้ไม๊คะ
ตอบ ในตารางฐานข้อมูลคุณมีวันเดือนปีและเวลาอยู่แล้ว และคุณต้องการทราบว่า ในแต่ละเดือนนั้นมีรายรับเท่าไหร่ เราจึงใช้สูตร
Code: Select all
=TEXT(เซลล์วันเดือนปี.รหัสการแสดงผลตัวเลข)
เพื่่อแปลงค่าวันเดือนปี ให้เป็นชื่อเดือนแล้วตามด้วยเลขปี
รหัสการแสดงผลตัวเลขที่ผมใช้คือ "ดดดดbbbb" โดย
รหัส ดดดด คือชื่อเดือนภาษาไทยอย่างเต็ม เช่น มกราคม, กุมภาพันธ์
รหัส bbbb คือปีพุทธศักราชเลขอาระบิค 4 หลัก เช่น มกราคม, กุมภาพันธ์
สมมุติว่าเซลล์ A2 มีค่า = 1/2/2013
หากผมใช้สูตร =Text(A2,"ดดดดbbbb") จะให้ค่า
กุมภาพันธ์2556
เนื่องจากเรามีเซลล์ชื่อเดือนแล้ว เรายังขาดเลขปี จึงกำหนดให้เซลล์ I1 เป็นเซลล์รับค่าปีพุทธศักราช ซึ่งแปรเปลี่ยนตลอดเวลา
ส่วนสูตร $H4&$I$1 เป็นการเชื่อมข้อมูลที่อยู่ในเซลล์ H4 กับเซลล์ I1 เช่น H4 มีค่า "มกราคม" ส่วน I1 มีค่า 2556 ดังนั้นสูตร $H4&$I$1 ให้ผลลัพธ์ มกราคม2556 ซึ่งเราใช้ค่าดังกล่าวเป็นค่าเปรียบเทียบเพื่อการตรวจสอบ
สำหรับสูตร
Code: Select all
(กลุ่มเซลล์ที่ต้องการตรวจสอบ=ค่าเปรียบเทียบ)
เป็นการตรวจสอบว่ามีค่าใดตรงบ้าง ถ้าผลลลัพธ์ของการตรวจสอบพบว่า
ตรงกัน จะคืนค่า
จริง (TRUE) ออกมา
การคืนค่าดังกล่าว ยากแก่การทำความเข้าใจของมนุษย์ ดังนั้นเราต้องเอาค่าที่ต้องการนำมาคำนวณไปคู ซึ่งในที่นี้คือ
ค่าใช้บริการ (Fee)
สำหรับ TimeIn เป็นชื่อเล่นกลุ่มเซลล์ (Range Name) ของเซลล์ B4 ลงไป ส่วน Fee คือชื่อเล่นกลุ่มเซลล์ของตั้งแต่ F4 ลงไป
สูตร SUMPRODUCT เป็นสูตรสำหรับคำนวณหาผลรวมของผลคูณครับ แต่เราสามารถใช้สูตรดังกล่าวเพื่อหาผลรวมอย่างมีเงื่อนไขตั้งแต่ 1 เงื่อนไขขึ้นไป
งานของคุณเป็นงานฐานข้อมูลครับ ลองหาหนังสือ จัดการฐานข้อมูลด้วยไมโครซอฟต์เอ็กเซล 2010 มาอ่านด้วยครับ เพราะมีคำอธิบายในการสูตร SUMPRODUCT เพื่อหาผลรวมอย่างมีเงื่อนไข ถึงแม้ว่าคุณใช้ MS Excel 2003 ก็นำเนื้อหามาประยุกต์ได้ ในส่วนของสูตร การใช้คำสั่งในเมนู Data ทั้งหมด Conditional Formatting การออกแบบตารางบันทึกข้อมูลครับ
อ้อที่เซลล์ F4 แนะนำให้ใช้สูตร
Code: Select all
=IF(HOUR(E4)>2,(E4-(1/12))*10*24,0) หรือ =(HOUR(E4)>2)*(E4-(1/12))*10*24
หากจอดรถไม่เกิน 2 ชั่วโมง จะแสดงค่า 0 ออกมาครับ มิฉะนั้นจะคำนวณไม่ได้ครับ
ดูฉบับปรับปรุงได้ครับ ผมใช้ Conditional Formatting ตรวจสอบว่ามีค่าเท่ากับ 0 หรือไม่
แล้วแก้ไขข้อความด้วยครับ