Excel Forum

คือว่าผมได้ทำ macro ไว้แล้ว แต่ผมจำเป็นต้องใส่เงื่อนไขด้วย ทำให้ผมต้องใช้ vba เพื่อใส่เงื่อนไขแล้วก็เปิด macro

ไม่สามารถใช้ VBA ในการเปิด Macro ได้ครับ อ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ viewtopic.php?f=3&t=5574

หากยังไม่ตรงกับที่ต้องการ ช่วยอธิบายเพิ่มเติมว่า ปัญหาคืออะไร ต้องการคำตอบเป็นอย่างไร จะได้เข้าใจตรงกันครับ

พอดีว่าผมใช้ macro สั่งให้ worksheet Refresh ครับ อย่างนี้ VBA มีคำสั่ง Refresh ไหมครับ

Refresh worksheet ที่ว่านั้น Refresh อย่างไร ผลของการ Refresh ที่ต้องการคืออะไรครับ

คือว่าผมใช้ Get External Data > From Web ฉะนั้น ในวันต่อไปผมแค่คลิกขวา Refresh ครับ ของเดิมผมใช้ macro มาช่วยในการกด Refresh แต่ผมอยากเพิ่มเงื่อนไขการกด refresh เลยคิดว่าต้องใช้ vba เข้ามาช่วย แต่ปัญหาคือผมไม่รู้คำสั่งในการ Refresh Wordsheet

เมื่อใช้ Macro ในการ Refresh ได้ก็ใช้ VBA ในการสร้างเงื่อนไขในการ Refresh ได้เช่นกัน เดิมเขียนไว้อย่างไร ต้องการสร้างเงื่อนไขอย่างไร ติดขัดบรรทัดใด แนบ Code ที่เขียนเองมาแล้วด้วยเพื่อจะได้แนะนำต่อไปจากนั้น

สำหรับ VBA จำเป็นต้องเขียนมาก่อนเสมอตามกฎการใช้บอร์ดข้อ 5 ด้านบน เขียนได้เท่าใดก็เท่านั้น แต่ต้องเขียนให้เข้าข่ายประเด็นที่ถาม ไม่ใช่ถามเรื่องหนึ่งแต่เขียนมาเป็นอีกเรื่องครับ

ทำให้ Refresh ได้แล้วครับ คือ ตอนที่ผมทำ macro มันก็สร้างเป็นโค้ด vba ให้แล้วครับ
แต่ตอนนี้ปัญหาผมคือจะดึงข้อมูลในเซลของ worksheet จะดึงอย่างไรครับ ใช่
Worksheets("Temp").select
Range(A1).value
หรือป่าวครับ

ต้องการจะดึงข้อมูลไปไว้ที่ไหน หรือให้แสดงผลที่ไหน อย่างไร ครับ

Code ที่เขียนมานั้นแค่เลือกชีท ส่วน Range(A1).Value เป็น Code ที่ใช้ไม่ได้ เนื่องจากเขียนไม่ถูกต้องและไม่มีที่มาที่ไป

ที่ถูกคือเขียน Range("A1").Value สังเกตว่าชื่อเซลล์จะต้องครอบด้วยฟันหนู นี่แค่เขียนให้ถูกเท่านั้นแต่ยังใช่ไม่ได้ เพราะว่าเราไม่สามารถอ้างลอย ๆ แค่นี้ได้ จะต้องบอกว่าต้องการให้อะไรเท่ากับ Range("A1").Value หรือต้องการให้ Range("A1").Value มีค่าเท่ากับอะไร

เช่น Range("A1").Value=Range("B1").Value เช่นนี้จึงจะเป็นคำสั่งที่ใช้ได้ครับ

การศึกษา VBA ทางหนึ่งที่ดีที่สุดคือให้ทำการบันทึก Macro แล้วดูว่า Code ที่ได้เป็นอย่างไร จากนั้นค่อยปรับ Code ที่ได้นั้นมาใช้งาน เนื่องจาก Code ที่ได้จากการบันทึก Macro นั้นมีความถูกต้องแน่นอน

ขอบคุณครับ

Worksheets("Sheet1").Range("b2").Value

พอดีช่วงนี้ยุ่งๆ แถมลืมอีกก็เลยกลับมาตอบครับ ขอบคุณครับ