Excel Forum

สวัสดีครับอาจารย์ และพี่น้องผองเพื่อน
ขอเกริ่นปัญหาเริ่มต้นครับ ผมทำงานในไฟแนนซ์ท้องถิ่น แห่งหนึ่งในต่างจังหวัด พนักงาน 10 คน ฐานลูกค้า ราวๆ 1000คน ในช่วงเวลา ราวๆ 12 ปี (แต่บริษัทเปิดมานานกว่านั้น) บริษัทต้องการโปรแกรมที่คำนวณค่างวด ค่าปรับ กับฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อความรวดเร็ว แม่นยำ ผ่านทั้งการจ้างโปรแกรมเมอร์ การใช้โปรแกรมสำเร็จรูป อื่นๆที่บริษัทพยายามให้ได้เครื่องมือสักตัวที่จะช่วยคำนวณค่างวดได้ แต่ไม่สำเร็จเลย อย่างเก่งได้แต่ข้อมูลลูกค้า ซึ่ีงไม่สมบูรณ์ด้วยซ้ำ

แต่ผมที่เข้ามาในฐานะ เบ๊เบ็ดเตล็ด(ทำทุกหน้าที่ในบริษัท) เมื่อได้รับมอบหมาย ผมค้นคว้าวิธี และมาพบบอร์ดนี้เข้า จากคนไม่รู้จักexcel บอร์ดนี้ช่วยให้ผมทำได้สำเร็จในเวลา 5 เดือน (ได้ทำวันละ 2-3 ชม) คำนวณ ค่างวด เก็บฐานข้อมูลลูกค้า ทั้งปิดบัญชีไปแล้ว และบัญชีปัจจุบัน มันคำนวณได้อย่างที่โจทย์ต้องการ แต่มันไม่ถูกใช้งานครับ
จนทุกวันนี้ ฐานข้อมูล ไม่ได้ถูกเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ตัวโปรแกรมคำนวณ ไม่ให้เอามาใช้ เหมือนโดนเตะถ่วงไปเรื่อย
อาจเป็นเพราะ เมื่อระบบเก็บข้อมูลที่เป็นจริง ถูกต้อง จะทำให้ตัวเลขลับๆที่บางคนไม่อยากให้เปิดเผย กลัว ก็เลยเตะถ่วงให้ผมไปทำแผนกอื่นๆที่ไม่กลับมาแตะคอม จนกว่าคอมจะพัง ค่อยเรียกผมมาดูๆอาการ

บางทีผู้บริหารถามว่าโปรแกรมเป็นไงบ้าง ผมก็ตอบตรงๆว่า ใช้งานได้แล้วแต่ไม่ถูกนำมาใช้ เพราะไม่สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้ครับ แล้วเค้าก็เออๆ ทำให้เสร็จ แล้วมันก็เงียบหายไป เป็นอย่างนี้ทุกๆ 3 เดือน มาราวๆ ปีครึ่งแล้วครับ

คำถาม ผมจะต้องบอกอย่างไรให้ผู้บริหารเข้าใจว่าระบบฐานข้อมูล มันมีประโยชน์มาก มากกว่าที่ตอนนี้เค้ามีคอมพิวเตอร์สเปคเครื่องสูง แต่เอาไว้แค่ print งานกับเล่นเกมส์ ไอ้เรื่องโปรแกรมนี่อยู่ในความรับผิดชอบผมครับ

และexcel2003 (ขอขอบคุณบอร์ดนี้อีกครั้งที่ช่วยจนผมทำโปรแกรมได้สำเร็จครับ) ตอบโจทย์ได้ทุกอย่างแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนทดสอบใหญ่ (ใช้งานควบคู่การทำงานจริง) หากผ่านการทดสอบนี้ (ผมขอเวลา 3 เดือน) ก็นำมาใช้ได้เลยครับ
ทุกวันนี้ เค้าปล่อยให้ฐานข้อมูลว่างเปล่า ไม่เก็บข้อมูลลูกค้าเข้าเลย นานกว่า 9 เดือนแล้วครับ
ผมจะทำอย่างไรดีครับ อ้อ ผมตอนนี้ อายุ 36 แล้วครับ เงินเดือนผม เก้าพันสามร้อย หากมีเด็กใหม่มาสมัครบริษัทผม หลังบรรจุแล้ว เด็กใหม่สตาร์ทเงินเดือน 7500 ครับ

อยากฟังความคิดเห็น หลายๆท่านที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนผมน่ะครับ รบกวนด้วยครับ

โอ๊ว...ช่างเป็นปัญหาที่ผมเจออยู่ตอนนี้เลยครับ

ในออฟฟิสผมมีแค่ 5 คน ใช้งานเอ็กเซลล์เหมือนเป็นสมุดจด หรือ กระดาษทดยังไงยังงั้น ผมเข้ามามีหน้าที่ดูแลสต๊อคสินค้า เลยจำเป็นต้องมีระบบช่วย ก็อาศัยเจ้าเอ็กเซลล์นี่เเหละสร้างขึ้นมา และก็ทำเสร็จไปนานแล้ว

เมื่อเป็นเช่นนั้น ผมเลยกลายเป็นคนที่มีระบบการทำงานที่เป็นอัตโนมัติ ต่างกับคนอื่นที่เป็นอัตโนมือ ซึ่งมีความผิดพลาดได้ง่าย ผมเลยมีแนวคิดในการสร้างฐานข้อมูลขึ้นมา ว่าด้วยการสร้างด้วย Access ผมศึกษาได้ค่อนข้างโอเคร ใช้งานได้ Access จะเก็บข้อมูลไำด้เยอะและใช้ทำฐานข้อมูลโดยเฉพาะ

เจ้านายก็เห็นด้วย ผมเลยออกแนวคิดให้ซื้อเซิร์ฟเวอร์ แล้วผมก็สร้างระบบเสร็จ ขาดอย่างเดียวคืิการทดลองใช้ จนแล้วจนรอดจนถึงบัดนี้ ระบบที่ถูกใช้งานมีแค่ไม่กี่ระบบ ส่วนมากก็จะเป็นระบบที่นายต้องการให้ทำเท่านั้น ส่วนระบบที่ใช้งานในออฟฟิศก็ได้แค่ระบบเดียว คือ ระบบบัญชี ส่วนเซิร์ฟเวอร์ก็ไว้เก็บไฟล์เท่านั้น

ผมรู้สึกท้อเช่นเดียวกันครับ กับการที่ต้องย่ำอยู่ที่เดิม บางทีเราพยายามนำสิ่งใหม่ๆ ดีๆ มาให้เค้า เค้าก็ไม่เอา กลับเห็นว่าเราก้าวก่ายงานเสียด้วยซ้ำ ผมเลยหยุดทำระบบไปเลย เอาแค่งานตัวเองพอแล้ว เพราะเบื่อหน่ายเต็มทน

ระบบของผม ใช้งานแบบง่ายๆ พื้นฐานเอารวดเร็ว เพราะผมใช้สูตรได้ค่อนข้างพอใช้ VBA พอได้บ้าง ผมเลยทำระบบง่ายๆ แต่ทำงานรวดเร็ว สบายใจกว่าเดิมเยอะ

จนขณะนนี้ผมมี 2 งานต้องรับผิดชอบ เท่ากับทำงานให้ 2 บริษัทในเวลาเดียว นั่นคือ พนักงานไอทีของบริษัทแม่ รับผิดชอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2 นักออกแบบสินค้า หรือกราฟฟิคดีไซน์ ผมใช้งานโปรแกรมได้เยอะ เลยไหลได้เรื่อยๆ แต่เอาดีไม่ค่อยได้สักเรื่อง

ส่วนเงินเดือน ผมไม่ขอเปิดเผยครับ ลองคาดเดากันเองแล้วกันครับ

โดยส่วนผมเห็นว่าผู้บริหารย่อมเล็งเห็นความสำคัญของฐานข้อมูล เพราะสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาช่วยในการตัดสินใจได้ เพียงแต่ต้องให้ทราบข้อเท็จจริงว่าการที่ระบบยังไม่สามารถใช้ได้นั้นเกิดจากสาเหตุใด

คนบางคนที่กล่าวถึงนั้นเขามีอำนาจเทียบเท่าผู้บริหารหรือไม่ หากไม่แล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเกรงอกเกรงใจ เพราะเรามีสถานะเป็นพนักงานบริษัท มีหน้าที่ดูแลรักษาทรัพย์สินของบริษัทเช่นกัน เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากลก็ควรที่จะแจ้งเบาะแสให้กับผู้บริหารได้รับทราบ กรณีผู้บริหารเป็นผู้ทุจริตเสียเองก็ถูกปลดได้เช่นเดียวกับพนักงาน มีให้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดไหน

การที่ปล่อยให้ผู้ใดผู้หนึ่ง กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งทุจริตโดยไม่มีการระงับยังยั้งทั้ง ๆ ที่เห็นว่าทำได้ ก็จะเสียโอกาสแก่คนอื่น ๆ ไปด้วยเช่นกัน หากว่ากิจการมีกำไรก็ควรที่พนักงานทั้งหลายจะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ไม่ใช่ไปเป็นผลประโยชน์ของพนักงานเพียงบางคน

ขอขอบคุณสำหรับคำชี้แนะของอาจารย์ครับ เดี๋ยวผมจะนำไปลองปฏิบัตตามเลยครับผม ขอบคุณครับ

ขอบคุณคุณ bank 9597 ด้วยนะครับ และถูกใจคำพูดนี้มากๆครับ
"ผมรู้สึกท้อเช่นเดียวกันครับ กับการที่ต้องย่ำอยู่ที่เดิม บางทีเราพยายามนำสิ่งใหม่ๆ ดีๆ มาให้เค้า เค้าก็ไม่เอา"


รูปแบบงานยิ่งเหมือนกันเข้าไปใหญ่ server เอาไว้แค่เก็บไฟล์ข้อมูล ระบบภายในยังใช้ระบบมือ excelเอาไว้แค่กระดาษทดเลข หรือเอาไว้จดข้อมูลอะไร แล้วก็เก็บไว้อย่างนั้น
โปรแกรมที่รอทดสอบ ถูกทิ้งไว้อย่างนั้น ราวกับว่าบริษัทดูทันสมัยขึ้นมีคอมพิวเตอร์ใช้ แต่ขอโทษครับ คอมพิวเตอร์ถูกใช้งานแทนกระดาษเท่านั้นเอง ส่วนคำนวณอะไรก็เครื่องคิดเลขที่วางข้างๆคอมพิวเตอร์ (ฮา)


ขอบคุณครับเดี๋ยวผมลองไปปฏิบัติครับผม ขอบคุณครับ ทั้งอาจารย์และคุณbankครับ

มันเป็นอย่างนั้นจริงๆครับ คุณ sdmania ผมเอาความจริงมาพูดเล่นเลยน่ะครับเนี่ย

ทางที่ผมแก้คือ ผมเอางานของผมให้เริ่ดหรูไปเลยครับ ควบคุมทุกอย่างด้วยระบบที่สร้างด้วยเอ็กเ้ซลล์นี่แหละ พิสูจน์และวัดให้เค้าเห็นไปเลยว่า ระบบเรามันเจ๋งพอ เวลานายถามอะไร จะเอาอะไร เราก็หาให้ได้ในเวลาอันสั้น แล้วเจ้านายเค้าก็จะเห็นความสำคัญเองครับ หน้าที่เราคือ พัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ ไม่หยุดกับที่ ให้เราเป็นคนริเริ่มครับ อย่าเป็นผู้ตาม ความเจริญในสายงานจะต่างกัน

ในอนาคต ไม่ว่าบริษัทเล็กหรือใหญ่ เรื่องระบบจะต้องมีทุกที่อย่างแน่นอนครับ ไม่ช้าก็เร็วเค้าก็ต้องปรับเปลี่ยน ถึงตอนนั้นคุณก็เก่งไปในหลายๆเรื่องแล้ว สามารถปรับตัวได้ทันทีแบบสบายๆ แถมมีโอกาสเป็นผู้นำด้วย ปล่อยให้พวกที่มีความคิดโบราณเค้าทุกข์ใจไปเลยครับ

ประโยชน์อีกอย่างคือ เราเรียนรู้เอง เก่งมาเรื่อย เราก็เลือกงานได้ด้วย เกิดความไม่แน่นอน จะต้องออกจากงาน คุณก็ไม่ต้องเครียด เพราะคุณมีความรู้อยู่กับตัว ยิ่งเก่งเอ็กเซลล์ด้วยแล้ว ทำงานอะไรก็ได้ครับ ผมมั่นใจ 100 % เพราะเอ็กเซลล์ใช้ทำงานได้เกือบทุกอย่าง ไม่ว่า บัญชี การเงิน ระบบ ฐานข้อมูล คลังสินค้า ฯลฯ แค่คุณเก่งพอ รับรองคุณสบายครับ