Excel Forum

สอบถามสูตรหน่อยค่ะ ถ้าเราอยากสร้างเงื่อนไขสำหรับการขนส่งโดยมีเงื่อนไขว่า

รถที่บรรทุกของที่จะไปส่งได้ต้องมีเงื่อนไขดังนี้
1. Region เดียวกัน column b
2.เนื่องจากต่อเที่ยวขนส่งมีเงื่อนไขการบรรทุกรถว่าต้องมี
-สินค้า A 2 unit
-สินค้า B2 unit
-สินค้า C 1 unit
3.สินค้าต้องเป็นวันที่ผลิตเดียวกัน

ดูจากคำตอบแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจ ช่วยทำตัวอย่างมาให้ครบชุดตามข้อ 2 ว่าคำตอบทั้ง A, B, C สรุปแล้วจะต้องมีค่าเป็นเท่าใดของแต่ละวัน จะได้สะดวกต่อการทำความเข้าใจของเพื่อนสมาชิกครับ

ขอบคุณนะคะ ตอนนี้ได้ลองsimตัวเลขและแก้ไขไฟล์ให้ใหม่ค่ะ

เป็นการหาจำนวนเที่ยวทั่วประเทศที่จัดส่งได้ใน 1 วันได้กี่เที่ยวตามเงื่อนไข โดยเรียงลำดับวัน-เวลาการผลิต
1 Conditionของรถบรรทุก(รถ1 คันต้องประกอบไปด้วยสินค้าชนิดนี้และจำนวนตามนี้เท่านั้น / 1 ภาค/1 เที่ยว)

A 1
A 1
A 1
B 1
B 1
C 1
เท่ากับว่า รถคันนี้บรรทุกสินค้าไปส่งได้ 6 unit 3 ชนิด/1 ภาค
2 เรียงลำดับวัน-เวลาการผลิต
3 แยกภาคในการส่ง

ตัวอย่างแบบง่ายเพื่อหาว่า Region ไหนในวันที่เดียวกันที่พร้อมส่งสินค้าทุกชนิดตามสัดส่วนที่กำหนดได้บ้าง ดังไฟล์แนบ ผลการคำนวณอยู่ในคอลัมน์ O ครับ

ขอบคุณมากนะคะ

ขอสอบถามเพิ่มเติมได้มั้ยคะว่า ในcolumn G สามารถให้ขึ้น result ของการจัดส่ง และระบุชิ้นที่จะต้องจัดส่ง ว่าเป็นชิ้นไหน
ขอบคุณค่ะ

ต้วอย่างสูตรในเซลล์ G2 ครับ

=INT((COUNTIFS(B$2:B2,B2,C$2:C2,C2,E$2:E2,E2)-1)/IF(C2="A",3,1))+1

Enter

ตัวอย่างการนำไปใช้ด้วยการกรองโดยใช้เซลล์ G22 เป็นตัวตรวจสอบประกอบหรือถ้าหากเข้าใจ PivotTable ตั้งแต่เซลล์ I11 เป็นต้นไปก็สามารถใช้งานจากส่วนนี้ได้เช่นกัน

1. Filter เลือกค่า BKK ในคอลัมน์ B (หรือ ค่าใด ๆ ที่ต้องการ)
2. Filter เลือกค่า 1 ในคอลัมน์ G สามารถเลือก 2, 3, ฯลฯ ซึ่งเป็นหมายเลขชุดข้อมูลในลำดับถัดไปตามต้องการ)
3. ตรวจสอบว่า G22 คือเลข 5 (ตัวเลขสัดส่วน A:B:C เป็น 3:1:1 รวมแล้วเป็น 5)
4. สังเกตดูรายการในคอลัมน์ A ว่าเป็นบรรทัดใดเพื่อนำไปใช้งาน

สวัสดีค่ะ
-ลองสลับเวลา ให้เวลาผลิตไม่เรียงต่อกัน
-ลองใช้สูตร ---> =INT(((SUMPRODUCT(--($F:$F<=F5)/COUNTIFS(C$2:C5,C5,D$2:D5,D5,E$2:E5,E5)-1)/IF(D5="A",3,2)+1)))
ปรากฏว่า Column เรียงเวลา มีค่าติดลบ
-ขอรบกวนถามหน่อยค่ะว่า อันนี้จะต้องแก้เป็นอะไรอ่ะคะ


Line Region Product Unit date Time Select เรียงเวลา
1 BKK A 1 01/07/2566 8.32 1 -9
2 BKK A 1 01/07/2566 8.42 1 -12
3 BKK A 1 01/07/2566 8.52 1 -12
4 N B 1 01/07/2566 9.01 1 -3
5 N B 1 01/07/2566 9.03 1 -9
6 BKK B 1 01/07/2566 8.27 1 -13
7 N A 1 01/07/2566 9.04 1 -12
8 C A 1 01/07/2566 9.02 1 -13
9 BKK C 1 01/07/2566 8.12 1 -9
10 BKK C 1 01/07/2566 8.15 1 -12
11 BKK A 1 01/07/2566 8.11 2 -14

สูตรที่ดัดแปลงมานั้นใช้กันคนละกรณี ให้ใช้สูตรเดิมและไม่จำเป็นต้องเรียง หรือหากต้องการเรียงตามเวลาก็ให้เรียงข้อมูลเอาไว้ก่อน สำหรับโจทย์นี้ใช้สิ่งที่ตอบไปแล้วหาคำตอบได้เลยครับ

หากเงื่อนไขคือ A:B:C เป็น 3:2:1 ปรับสูตรเป็น

=INT((COUNTIFS(B$2:B2,B2,C$2:C2,C2,D$2:D2,D2,E$2:E2,E2)-1)/IF(D2="A",3,IF(C2="B",2,1)))+1

ขอบคุณมากค่ะ หากไม่สำเร็จจะมาขอคำปรึกษาเพิ่มนะคะ

สวัสดีค่ะ
Line Region Product Unit date Time Select ลำดับสินค้าในแต่ละเที่ยว
1 BKK A 1 01/07/2566 8.32 1 1
11 BKK A 1 01/07/2566 8.11 1 2
2 BKK A 1 01/07/2566 8.42 1 3
6 BKK B 1 01/07/2566 8.27 1 4
9 BKK C 1 01/07/2566 8.12 1 5
10 BKK C 1 01/07/2566 8.15 1 6
13 BKK B 1 01/07/2566 8.22 1 7
21 BKK B 1 01/07/2566 9.34 1 8
--->เงื่อนไขครบถ้วนสามารถจัดส่งสินค้าไป BKKได้

Line Region Product Unit date Time Select ลำดับสินค้าในแต่ละเที่ยว
8 C A 1 01/07/2566 9.02 1 1
22 C A 1 01/07/2566 8.43 1 2
14 C A 1 01/07/2566 8.15 1 3
---->จำนวนไม่ครบส่งไม่ได้**

**จากด้านบนที่สินค้าไม่ครบตามจำนวน ทำให้จัดส่งไม่ได้ เราจะสามารถใช้สูตรไหน ที่จะแสดงส่วนที่ขาดไปได้มั้ยคะว่าเป็นสินค้า อะไร จำนวนเท่าไหร่ ขอบคุณค่ะ

กรณีเช่นนี้ควรดูจาก PivotTable ที่ผมทำประกอบไป จะพอดูได้ว่าชุดไหนครบหรือไม่ครบ อาจจะดูได้ไม่ง่ายนัก

อีกวิธีคือเพิ่มคอลัมน์เข้ามาระบุว่าอันไหนครบแล้ว โดยการ Filter ดู เมื่อพบรายการที่ครบแล้วให้คีย์ค่าเข้าไปว่า "ครบ" ส่วนที่เหลือคือไม่ครบ

อีกวิธีคือเขียน Code เข้าไปจัดการ เพื่อจะแสดงรายงานออกมาอย่างละเอียดว่าชุดไหน ขาดรายการไหน จำนวนเท่าใด ซึ่งต้องเขียนมาเองก่อน ติดตรงไหนค่อยถามกันต่อครับ

สวัสดีค่ะ ตอนนี้ ใช้สูตร =IFERROR(INDEX($P$2:$P$8,SMALL(IF(COUNTIFS($C$1:$C$33,$P$2:$P$8,$I$1:$I$33,$I16)=0,ROW($P$2:$P$8)-ROW($A$2)+1),ROWS($K16:L16))),"")

เพื่อหาตัวที่ขาดไปเช่น เงื่อนไข ต้องมี A,B,C

แต่เมื่อใช้สูตรนี้ปรากฏว่า ขึ้นมาเฉพาะ Bไม่ขึ้น Cค่ะ จะต้องมีการปรับสูตรอย่างไรบ้างคะ

สูตรนั้นไม่สามารถปรับใช้กับงานที่ทำอยู่นี้ได้ ให้ทบทวนและทำความเข้าใจสิ่งที่ผมตอบไปแล้วครับ

การถามตอบควรแนบไฟล์ล่าสุดมาด้วยเสมอจะได้ดูว่าสิ่งที่เขียนตรงกับสิ่งที่ต้องการแค่ไหน มีอะไรเพิ่มลดที่จะหาคำตอบต่อไปได้หรือไม่ อย่างไรครับ

ขอโทษค่ะ ลืมแอดไฟล์
ใช้สูตร =IFERROR(INDEX($P$2:$P$8,SMALL(IF(COUNTIFS($C$1:$C$33,$P$2:$P$8,$I$1:$I$33,$I16)=0,ROW($P$2:$P$8)-ROW($A$2)+1),ROWS($K16:L16))),"")

ใช้สูตรนี้แล้วขึ้นโชว์ตัวที่ขาด แค่ตัวเดียวคือ B ทั้งที่จริงขาด 2 ตัวคือ B และ C
เลยอยากจะรบกวนปรึกษา ว่าต้องแก้สูตรColumn L อย่างไรคะ

จากสูตร

=IFERROR(INDEX($P$2:$P$8,SMALL(IF(COUNTIFS($C$1:$C$33,$P$2:$P$8,$I$1:$I$33,$I16)=0,ROW($P$2:$P$8)-ROW($A$2)+1),ROWS($K16:L16))),"")

เท่าที่ดุเจตนาของสูตรเป็นการแสดงรายการออกมาเป็นลำดับที่ 1, 2, 3... แต่เขียนให้แสดงเฉพาะลำดับที่ 1 เนื่องจากใช้ฟังก์ชัน Rows หากต้องการให้เป็นลำดับอื่น ๆ ให้เปลี่ยน Rows เป็น Columns เช่นเป็น Columns($K16:K16) และ Copy สูตรไปทางขวาเพื่อแสดงลำดับที่ 2 เป็นต้นไป แล้วค่อย Copy ลงด้านล่าง

ส่วนจะได้ผลตามต้องการหรือไม่อย่างไรนั้นคิดว่าน่าจะทำความเข้าใจจากผลลัพธ์จากสูตรที่เขียนมาได้ด้วยตัวเองครับ