Excel Forum

ปกติ ช่อง J ไม่มีข้อมูลคะ แต่ Sum ให้ดูเพื่อจะได้รู้ว่าหน้าที่ 1 ยอด Sum เท่ากับเท่าไร หน้า 2 Sum เท่ากับเท่าไรคะ

ที่ M14 คีย์ =SUMPRODUCT(--(RIGHT(PACKING!$A$2:$A$36,3)*1>(L14*9)-9),--(RIGHT(PACKING!$A$2:$A$36,3)*1<=L14*9),PACKING!$I$2:$I$36) คัดลอกลงมาครับ

ขอบคุณค้า รบกวนอธิบายหน่อยได้ไหมคะ ว่าที่เขียนหมายความว่ายังไง แล้วถ้าข้อมูลมีมากกว่า 36 แถว สูตรนี้ใช้ไม่ได้หรือคะ

เป็นสูตร Sum ตามเงื่อนไขครับ ให้ยกส่วนที่ไม่เข้าใจมาครับ แล้วผมจะอธิบาย

คุณสามารถมีข้อมูลได้กี่บรรทัดก็ได้ ให้ปรับตัวเลขในสูตรตามจำนวนข้อมูลที่มีอยู่ และสูตรจะทำงานได้ปกติก็ต่อเมื่อ..
- ลำดับบรรทัดใน PACKING!A:A ยังคงเรียงลำดับกันถูกต้องเสมอ (N001, N002, N003, ...)
- เลขลำดับใน L14 ลงมา ต้องเรียงลำดับถูกต้องเสมอ (1, 2, 3, ...)

ขอบคุณคะ

bank9597 wrote: เป็นสูตร Sum ตามเงื่อนไขครับ ให้ยกส่วนที่ไม่เข้าใจมาครับ แล้วผมจะอธิบาย

คุณสามารถมีข้อมูลได้กี่บรรทัดก็ได้ ให้ปรับตัวเลขในสูตรตามจำนวนข้อมูลที่มีอยู่ และสูตรจะทำงานได้ปกติก็ต่อเมื่อ..
- ลำดับบรรทัดใน PACKING!A:A ยังคงเรียงลำดับกันถูกต้องเสมอ (N001, N002, N003, ...)
- เลขลำดับใน L14 ลงมา ต้องเรียงลำดับถูกต้องเสมอ (1, 2, 3, ...)

ถ้าตัวเลขในช่อง PACKING!A:A ไม่เรียงลำดับละคะ อย่างเช่น VC02,P105,D203 เมื่อใช้สูตรแล้วจะขึ้น Value คะ

ปรับสูตรเป็น
=SUMPRODUCT(--(ROW(PACKING!$I$2:$I$36)-1>(L14*9)-9),--(ROW(PACKING!$I$2:$I$36)-1<=L14*9),PACKING!$I$2:$I$36) คัดลอกลงมา

bank9597 wrote: ปรับสูตรเป็น
=SUMPRODUCT(--(ROW(PACKING!$I$2:$I$36)-1>(L14*9)-9),--(ROW(PACKING!$I$2:$I$36)-1<=L14*9),PACKING!$I$2:$I$36) คัดลอกลงมา

-1>(l14*9)-9 หมายความว่ายังไงคะ

เริ่มต้นเราหาเลขลำดับแถวก่อน จาก ROW(PACKING!$I$2:$I$36) ค่าที่ได้คือ 2, 3, 4, ... 36

ใน 1 รายงานจะกำหนดให้มี 9 บรรทัด ดังนั้น เราจะต้อง Sum ค่าในบรรทัด 2 ถึง 10 แต่เราจะเริ่มจากบรทัดที่ 2 ไม่ได้ จะทำให้ยากต่อการ Sum ในช่วงต่อไป ดังนั้นเราจึงต้องลบด้วย 1 เพื่อให้เลขบรรทัด เริ่ม 1, 2, 3, ... 35 (PACKING!$I$2:$I$36 อันที่จริงมีแค่ 35 บรรทัด) เพื่อจะได้ง่ายต่อการกำหนดเลขบรรทัดเริ่มต้นและเลขบรรทัดสุดท้าย ที่จะต้อง Sum

L14 มีค่าเท่ากับ 1 มันเป็นค่าคงที่ เมื่อเอามาคูณด้วย 9 ซึ่งเป็นค่าคงที่ของจำนวนเลขบรรทัดที่เรากำหนด ก็จะได้ค่าเป็น 9 แต่เราไม่ได้เริ่มจากบรรทัดที่ 9 เราจึงต้องลบ 9 เพื่อให้เหลือ 0

สูตรกำหนดว่า >(L14*9)-9 ค่าที่ได้คือ 0 และกำหนดอีกเงื่อนไขว่า <=L14*9 ค่าที่ได้คือ 9
นั่นหมายความ สูตรจะ Sum ค่าจากบรรทัดที่มากกว่า 0 และน้อยกว่าหรือเท่ากับบรรทัดที่ 9 นั่นเอง

เลขบรรทัดจะเปลี่ยนไปตามค่าคงที่ที่เรากำหนดใน L14, L15, ...

bank9597 wrote: เริ่มต้นเราหาเลขลำดับแถวก่อน จาก ROW(PACKING!$I$2:$I$36) ค่าที่ได้คือ 2, 3, 4, ... 36

ใน 1 รายงานจะกำหนดให้มี 9 บรรทัด ดังนั้น เราจะต้อง Sum ค่าในบรรทัด 2 ถึง 10 แต่เราจะเริ่มจากบรทัดที่ 2 ไม่ได้ จะทำให้ยากต่อการ Sum ในช่วงต่อไป ดังนั้นเราจึงต้องลบด้วย 1 เพื่อให้เลขบรรทัด เริ่ม 1, 2, 3, ... 35 (PACKING!$I$2:$I$36 อันที่จริงมีแค่ 35 บรรทัด) เพื่อจะได้ง่ายต่อการกำหนดเลขบรรทัดเริ่มต้นและเลขบรรทัดสุดท้าย ที่จะต้อง Sum

L14 มีค่าเท่ากับ 1 มันเป็นค่าคงที่ เมื่อเอามาคูณด้วย 9 ซึ่งเป็นค่าคงที่ของจำนวนเลขบรรทัดที่เรากำหนด ก็จะได้ค่าเป็น 9 แต่เราไม่ได้เริ่มจากบรรทัดที่ 9 เราจึงต้องลบ 9 เพื่อให้เหลือ 0

สูตรกำหนดว่า >(L14*9)-9 ค่าที่ได้คือ 0 และกำหนดอีกเงื่อนไขว่า <=L14*9 ค่าที่ได้คือ 9
นั่นหมายความ สูตรจะ Sum ค่าจากบรรทัดที่มากกว่า 0 และน้อยกว่าหรือเท่ากับบรรทัดที่ 9 นั่นเอง

เลขบรรทัดจะเปลี่ยนไปตามค่าคงที่ที่เรากำหนดใน L14, L15, ...

ขอบคุณคะ อยากรู้ว่าอะไรที่จะทำให้เข้าใจได้แบบนี้คะ เพราะทุกครั้งที่เริ่มเขียน ก็ต้องหาตัวอย่างใน Internet ทุกที แต่ไม่สามารถที่จะเริ่มต้นเขียนเองได้ ด้วยตัวเองคะ

สิ่งที่ทำให้เข้าใจได้แบบนี้คือ ประสบการณ์ครับ

พยายามฝึกเขียน ฝึกแก้ปัญหาให้เยอะๆ เหมือนกับเรียนคณิตศาสตร์ครับ เราต้องฝึกทำโจทย์เยอะๆ หลายๆแนว และเมื่อเวลาสอบจริง ไม่ว่าจะเจอโจทย์แบบไหน เราก็ทำได้หมดครับ ถ้าทำได้แบบนี้ รับรองว่าเก่งแน่นอนครับ

bank9597 wrote: สิ่งที่ทำให้เข้าใจได้แบบนี้คือ ประสบการณ์ครับ

พยายามฝึกเขียน ฝึกแก้ปัญหาให้เยอะๆ เหมือนกับเรียนคณิตศาสตร์ครับ เราต้องฝึกทำโจทย์เยอะๆ หลายๆแนว และเมื่อเวลาสอบจริง ไม่ว่าจะเจอโจทย์แบบไหน เราก็ทำได้หมดครับ ถ้าทำได้แบบนี้ รับรองว่าเก่งแน่นอนครับ

ขอบคุณคะ จะตั้งใจและพยายามให้มากกว่านี้คะ เพราะอนาคต ต้องใช้ในการทำงานค่อนข้างมากคะ