Excel Forum

ลองที่เครื่องไม่มีขึ้นเตือนนะคะ Excel2016
ปรับสูตรนิดหน่อย ถ้าไม่ดีขึ้นต้องใช้วิธีอาจารย์แล้วค่ะ

เนื่องจากเป็นตัวเลขเลยใช้สูตรsmallเรียง ถ้ายังไม่ได้อีกก็คิดไม่ออกแล้วค่ะ

ทำไมคุณ Bo_ryถึงใช้สูตรsmallล่ะค่ะ แล้วมันต่างกับสูตร Match(0,Countif...) อย่างไร
เวลาคิดสูตรว่าต้องปรับใช้มีหลักการคิดอย่างไรคะ

ปกติเรียงตัวเลขใช้ small
Match(0,Countif...) เอาไว้เรียง text
เรียงตัวเลขและ text สูตรก็จะยากมาก

อันนี้เป็นตัวเลขใช้small เรียงได้ตั้งแต่แรกแล้วแต่พึงนึกออก มัวแต่ไปคิดเรื่องเอา2คอลัมน์มารวมกัน

คุณ Bo_ry เก่งจังค่ะ แต่มีเรื่องรบกวนอีกนิดค่ะ
ลักษณะงานคล้ายๆกัน คือจะต้องดึงข้อมูลลูกค้าในแต่ละวัน ที่ column B จะเพิ่มขึ้นทุกวัน อยากให้รวมชื่อลูกค้าเป็นชื่อเดียวสรุปยอดน่ะค่ะ ตาม file ที่แนบค่ะ ขอบคุณนะคะ

สูตรsmall ต้องไม่มีค่าซ้ำค่ะ ถ้าซ้ำใช้อันนี้
O6 =IFERROR(AGGREGATE(15,6,$B$6:$B$245/(O5<$B$6:$B$245),1),"")

P6 =MIN($B$6:$B$245)
P7 ลากลง
=IFERROR(AGGREGATE(15,6,$B$6:$B$245/(P6<$B$6:$B$245),1),"")

แก้สูตรให้ทั้ง2sheets ลองดูนะคะ

ช่วยอธิบายความหมายของสูตรได้ไหมคะ
แล้วทำไม P6 ต้องเป็น Min สูตรไม่เหมือน P7 คะ

คุณBo_ry ลองทำดูแล้ว ถ้า column B ไม่ใช่ตัวเลขเป็นเลขที่มี -1ด้วย มันเป็นค่าวางเลยค่ะ

สูตรใช้ได้เฉพาะตัวเลขค่ะ ถ้ามีตัวอักษรต้องแก้อีกเยอะ
สูตร iferror(agg...) จะหาค่าน้อยที่สุดที่มากกว่า cell ข้างบน บนP6 คือ p5 เป็นตัวอักษร จะมีค่ามากว่าตัวเลขทุกตัว จึงเลี่ยงไปใช้ min เพื่อหาค่าน้อยสุดแทน

O6 ค่าด้านบนว่างไว้มีค่าเป็น 0 เลยใช้ได้
คือหาค่าน้อยสุดที่มากกว่า 0

ความจริง Id ลูกค้าเป็น-1น่ะค่ะ ลืมไป คิดว่าเป็นตัวเลขน่าจะใช้ได้แต่ลองทำปรากฎว่าใช้ไม่ได้ค่ะ ต้องปรับสูตรอย่างไรดีคะ

ออกมาข้างนอกแล้วค่ะ ค่ำๆดูให้นะคะ

ลองแบบนี้ครับ

Sheet 1 (2) เซลล์ Q6 คีย์

=IFERROR(INDEX($C$6:$C$245,MATCH(SMALL(IF(FREQUENCY(MATCH($C$6:$C$245,$C$6:$C$245,0),ROW($C$6:$C$245)-ROW($C$6)+1),COUNTIF($C$6:$C$245,"<"&$C$6:$C$245)),ROWS(O$6:O6)),COUNTIF($C$6:$C$245,"<"&$C$6:$C$245),0)),"")

กด Ctrl+Shift ค้างแล้ว Enter > คัดลอกลงล่างครับ

ปล. บางครั้งถ้าการเรียงยังไม่ถูกต้อง ลองใช้ CODE ร่วมกับ COUNTIF ครับ
=IFERROR(INDEX($C$6:$C$245,MATCH(SMALL(IF(FREQUENCY(MATCH($C$6:$C$245,$C$6:$C$245,0),ROW($C$6:$C$245)-ROW($C$6)+1),CODE($C$6:$C$245)+COUNTIF($C$6:$C$245,"<"&$C$6:$C$245)),ROWS(O$6:O6)),CODE($C$6:$C$245)+COUNTIF($C$6:$C$245,"<"&$C$6:$C$245),0)),"")

cell สุดท้ายที่เป็น C245 ถ้ามีลูกค้าเพิ่มต้องมานั่งปรับสูตรทุกวันเลยค่ะ

IFERROR(INDEX($C$6:$C$245,MATCH(SMALL(IF(FREQUENCY(MATCH($C$6:$C$245,$C$6:$C$245,0),ROW($C$6:$C$245)-ROW($C$6)+1),CODE($C$6:$C$245)+COUNTIF($C$6:$C$245,"<"&$C$6:$C$245)),ROWS(O$6:O6)),CODE($C$6:$C$245)+COUNTIF($C$6:$C$245,"<"&$C$6:$C$245),0)),"")

ทำไว้ 2 แบบ Match(small…) กับ Match(0…) แยกsheetกัน ลองดูว่าแบบไหนเร็วกว่า

ค่ะ แต่สงสัยว่าทำไม ID#101456-1 เป็นอันดับแรกค่ะ ที่ถูกต้องเป็น ID#11673-1 ค่ะ

การเรียง text จะดูจากอักษรตัวแรกก่อน แล้วถึงเรียงอักษรตัวที่2 ไม่ได้ดูจำนวนหลัก 10000-1 จะมาก่อน 1-1

ถ้าเรียงแบบตัวเลขใช้
P6 =IFERROR(AGGREGATE(15,6,--SUBSTITUTE($C$6:$C$999,"-",".")/(P5<--SUBSTITUTE($C$6:$C$999,"-",".")),1),"")

Q6 =SUBSTITUTE(P6,".","-")

ขอบคุณค่ะคุณ Bo_ry พอได้ค่ะแต่ข้อมูลจะช้าๆหน่วงๆ แค่แทรก column ก็จะประมวลผลช้าคะ

ลองเอาสูตรอื่น sheet อื่นที่ไม่ใช้ออกค่ะ ถ้าช่วงใช้ไม่ถึง 999 ก็ลดลงได้ค่ะ

ค่ะ ขอบคุณคุณ Bo_ryที่แนะนำค่ะ