Excel Forum

:D ปกติปัญหานี้จะเกิดตอนพิมพ์เนื่องจาก Driver ไม่เหมือนกันเพราะใช้เครื่องพิมพ์คนละยี่ห้อหรือคนละรุ่น แต่ถ้าเปิดมาแล้วแสดงผลไม่เหมือนกันทั้ง ๆ ที่ Font เดียวกัน ขนาดเท่ากันนั้นยังไม่เคยเจอเหมือนกันครับ ลองตรวจสอบบาง Object ว่ามีขนาดเท่ากันทั้งสองเครื่องหรือไม่ตามภาพ โดยคลิกลงไปในภาพก่อนจากนั้นเข้าเมน...

ก็เป็นไปตามที่ผมแจ้งไปแล้วในโพสต์ก่อน คือเปิดไม่ได้ และทำงานต่อไม่ได้

การที่จะ Clear รูปแบบหรือสิ่งใด ๆ ก็ตามต้องเปิดไฟล์ขึ้นมาให้ได้ก่อน ซึ่ง Code ที่เขียนให้นั้นคือสั่งให้เปิดไฟล์ครับ

ลองเพิ่ม Code ตามภาพ หากรันแล้วติดบรรทัดที่ 2 แสดงว่าเปิดไฟล์ไม่ได้ เมื่อเปิดไฟล์ไม่ได้ก็ย่อมจะทำงานต่อไม่ได้ครับ

ลองดูตัวอย่างคำตอบจาก Link นี้ครับ viewtopic.php?t=5436#p35097

ลองแนบไฟล์ต้นทางมาดูกันครับ

จากภาพ Error นั้น Code ไปหยุดอยู่ที่บรรทัดไหนช่วยแจ้งหรือจับภาพประกอบมาด้วยครับ

ถ้าเป็นการบันทึก Macro คงไม่สามารถทำให้ Dynamic ไปตามบรรทัดที่เปลี่ยนแปลงไปได้ แต่หากเขียน VBA ขึ้นเองถึงพอจะทำได้ แต่ก็ต้องมี Logic เข้ามาช่วยในการระบายสี นั่นคือ การระบายสี การไม่ระบายสี สังเกตได้จากเงื่อนไขใดเช่นนี้เป็นต้นครับ

:D ต้องทราบลำดับขั้นตอนการทำงานถึงจะบอกได้ว่าควรกำหนดอย่างไรครับ เช่นเมื่อค่าใน A1 เปลี่ยนไปแล้วให้ทำ 10 งาน หากใน 10 งานนั้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่าในเซลล์ใด ๆ เช่นลบให้เป็นค่าว่างซึ่งกระทบกับ Change Event เราจึงต้องปิด Event เอาไว้กอนเสมอ ในทุก ๆ งาน เมื่อทำงานแต่ละงานเสร็จแล้วค่อยเปิด ในแต่ละงา...

:D ไม่ทราบว่ามีขั้นตอนการทำงานอย่างไรถึงพบว่า Event ไม่ทำงาน กรุณาอธิบายลำดับขั้นตอน ชี้ให้เห็นว่าเมื่อใดถึงให้ Code ทำงาน ที่เขียนไว้เดิมนั้น Code ทำงานทุกการเปลี่ยนค่าในเซลล์ใด ๆ เป็นการทำงานที่มากเกินความจำเป็น ควรเลือกให้ทำงานเฉพาะเหตุการณ์ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น การปิดและเปิด Event จะต้องปิด...

ตัวอยา่งการปรับสูตรครับ

=SUMPRODUCT(--(0<COUNTIFS($B$2:$B$19,OFFSET(Part_Products!$B$2,MATCH(H2,Part_Products!$H$2:$H$12,0)-1,0,COUNTIFS(Part_Products!$H$2:$H$12,H2)),$E$2:$E$19,E2)))=COUNTIFS(Part_Products!$H$2:$H$12,H2)

:D ลองดูสูตรด้านล่างว่าใช่ที่ต้องการหรือไม่ครับ ที่ H2 คีย์ =LEFT([@Code]) Enter ที่ I2 คีย์ =SUMPRODUCT(--(0<COUNTIFS($B$2:$B$19,OFFSET(Part_Products!$B$2,MATCH(H2,Part_Products!$H$2:$H$12,0)-1,0,COUNTIFS(Part_Products!$H$2:$H$12,H2)))))=COUNTIFS(Part_Products!$H$2:$H$12,H2) Enter True คือ ครบ Fals...

Array ที่กล่าวถึงคืออันไหนครับ

Array ทำงานได้เร็วมาก ปกติจะกำหนดค่าใน Range ไปเป็น Array เพื่อการทำงานที่เร็วขึ้น ไม่เคยพบว่าช้าที่ Array ครับ

อ่านแล้วไม่เข้าใจครับ

หากตัดด้วยส่วนประกอบว่าครบหรือไม่ครบ ย่อมทำได้ด้วยการ Refresh PivotTable ทุกการคีย์ (ซึ่งอาจจะใช้ Code ช่วย) จะเห็นว่าครบหรือไม่ครบ

หรือจะเขียน Code ตรวจสอบเฉพาะชุดที่กำลังคีย์ว่าครบตามส่วนประกอบแล้วหรือไม่ก็ย่อมทำได้

สร้าง PivotTable แล้วลากไปวางดังรูป จะเห็นเป็นรายงานว่าชิ้นส่วนไหนขาด ครบ หรือเกินดังภาพครับ

กรุณาแนบไฟล์ตัวอย่าง อาจจะทำขึ้นมาต่างหาก ตัดสิ่ิงที่ไม่เกี่ยวข้องกับคำถามทิ้งไป พร้อมทั้งชี้ให้เห็นว่าต้องการคำตอบที่ใด ด้วยค่าเท่าใด ด้วยเงื่อนไขใด จะได้เข้าถึงปัญหาได้โดยไวครับ

:D สามารถเขียนเพื่อ Validate ก่อนที่จะเขียน Code สำหรับการ Average ได้ครับ กรณีต้องการดักว่า txtBox3.Value เป็นค่าว่างให้ออกจาก Sub คือไม่ต้องทำงาานต่อ เขียนได้เป็น if txtBox3.Value = "" then exit sub หรือจะเขียนแจ้งผู้ใช้ให้ทราบก็เพิ่มเป็น if txtBox3.Value = "" then msgbox "...

การทำงานกับ Change Events จะต้องพิจารณาปิดการทำงาน Events เสียก่อนและเปิดขึ้นมาใช้ในภายหลัง ไม่เช่นนั้น Code แต่ละบรรทัดที่เขียนไว้จะทำให้ Events นั้นทำงานด้วยเสมอ ทำให้ Code ทำงานช้าลงอย่างมาก

ตัวอย่างการเปิดและการปิด Events ดูในภาพครับ

ช่วยจับภาพมาแสดงด้วยครับ

ตัวอย่างสูตรตามด้านล่างครับ

1. ที่ P7 คีย์
   =INDIRECT("R[-1]C",0)+O7
   Enter > Copy ลงด้านล่าง
2. ที่ R7 คีย์
   =INDIRECT("R[-1]C",0)+Q7
   Enter > Copy ลงด้านล่าง

การปล่อยให้ Argument สุดท้ายของ Match ว่างไว้มีค่าเท่ากับคีย์เลข 1 หมายถึงหาค่าที่ "น้อยกว่าหรือเท่ากับ" ค่าที่ต้องการค้นหาครับ